ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 7 กันยายน ปี 1838 เกรซ ดาร์ลิ่ง วัย 22 ปี ได้ท้าทายคลื่นลมที่ดุร้ายด้วยการพายเรือพร้อมกับพ่อของเธอเพื่อช่วยเหลือผู้คนแปลกหน้าจากเรือที่กำลังอับปาง
เรือกลไฟชื่อ Forfarshire สูญเสียกำลังเครื่องยนต์ท่ามกลางพายุรุนแรงและพุ่งชนโขดหินของเกาะบิ๊กฮาร์การ์ ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งนอร์ธัมเบอร์แลนด์ ประเทศอังกฤษ
ขณะที่พายุกำลังโหมกระหน่ำ เกรซและพ่อของเธอ วิลเลียม ซึ่งเป็นผู้ดูแลประภาคารลองสโตน มองเห็นผู้รอดชีวิตที่กำลังเกาะซากเรือผ่านกล้องส่องทางไกล
แม้จะมีคลื่นลมแรงและอันตราย พวกเขารู้ว่าพวกเขาเป็นความหวังเดียวของผู้ประสบภัยเหล่านั้น
ทั้งสองออกเรือพายขนาดเล็กยาว 21 ฟุต ซึ่งเรียกว่า ค็อบเบิล ท่ามกลางทะเลปั่นป่วน โดยต้องพายออกไปเกือบหนึ่งไมล์เพื่อไปยังจุดที่เรืออับปาง 😮
ขณะที่พ่อของเธอช่วยดึงผู้รอดชีวิตขึ้นเรือ เกรซแสดงความสามารถอันน่าทึ่งในการประคองเรือไว้ไม่ให้ถูกคลื่นซัดจนกระแทกกับโขดหิน
พวกเขาไม่สามารถช่วยทุกคนได้พร้อมกัน จึงนำผู้รอดชีวิตชุดแรก 5 คนกลับมาที่ประภาคารก่อน แล้ววิลเลียมก็ออกเรืออีกครั้งพร้อมกับลูกเรือ 2 คนที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว เพื่อไปช่วยอีก 4 คนที่เหลือ
รวมแล้ว พวกเขาช่วยผู้รอดชีวิตได้ทั้งหมด 9 คน
ข่าวความกล้าหาญของพวกเขาแพร่กระจายไปทั่วประเทศ และเกรซ ดาร์ลิ่งก็กลายเป็นวีรสตรีของชาติ เธอได้รับเหรียญทองเชิดชูความกล้าหาญ และแม้แต่ของขวัส่วนพระองค์มูลค่า 50 ปอนด์จากสมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย 🙏
การเสียสละของเกรซกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญที่ทรงพลังในยุควิกตอเรีย และเรื่องราวของเธอยังคงถูกจดจำในฐานะหนึ่งในเหตุการณ์ช่วยชีวิตทางทะเลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
#HeroicRescue #GraceDarling #MaritimeHistory #fblifestyle