ทั้งนี้ ที่ประชุมรับทราบร่างวิสัยทัศน์และกรอบทิศทางการพัฒนาการศึกษา ในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งมีเป้าหมายภายในปี 2563 ผลการจัดอันดับความสามารถการแข่งขันด้านการศึกษาของไทยต้องดีขึ้นอย่างน้อย 5 อันดับ เด็กนักเรียนไทยสามารถสื่อสารได้อย่างน้อย 2 ภาษา โดยนายกรัฐมนตรีมอบนโยบายให้กับคณะกรรมการฯ จัดทำวิสัยทัศน์และกรอบทิศทางการพัฒนาการศึกษาและกำหนดขอบเขต กิจกรรมตามแผนงานรวมถึงผลสัมฤทธิ์ที่จะได้รับระยะสั้นภายในระยะเวลา 1 ปี ตามแผนงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รวมถึงแผนระยะยาวเวลา 5 ปี ให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์เพื่อนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ
นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้การทำงานด้านการศึกษาเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาเป็นผู้รับผิดชอบ และให้แต่งตั้งคณะกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น จากสหภาพแรงงาน จากภาคอุตสาหกรรมเพื่อจะได้รับทราบถึงแนวทาง และผลิตคนรองรับความต้องการของตลาดแรงงาน พร้อมกับให้มีการปรับเปลี่ยนหลักสูตรการศึกษาของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาให้ เพิ่มวิชาชีพให้นักเรียนเพื่อปูพื้นฐานด้านอาชีพ และเตรียมความพร้อมรองรับการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น รวมทั้งให้ลดเวลาเรียน และลดการบ้านในห้องเรียนลง และให้นักเรียนค้นหาข้อมูลจากนอกห้องเรียน เพื่อเพิ่มประสบการณ์การเรียนรู้ให้นักเรียนมีวิสัยทัศน์เพิ่มมากขึ้น
สำหรับการสอนภาษาอังกฤษในระดับปฐมศึกษา นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำการสอน ให้นักเรียนสามารถพูดสื่อสารและใช้ในชีวิตประจำวันได้ นอกจากนั้นได้มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการเปิดหลักสูตรระยะสั้นเพื่ออบรม ด้านภาษาให้กับผู้ที่จบการศึกษาไปแล้ว แต่ต้องการมีความรู้ด้านภาษาเพิ่มเพื่อนำไปต่อยอดการทำงานต่อไป
อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/nnd/2149788