เต้าหู้ไข่..เป็นเหตุ คลิปครูให้นักเรียนกราบขอขมาหน้าเสาธง หลังเด็กกุเรื่อง อ้างอาหารกลางวันโรงเรียน ทำป่วยเข้าโรงพยาบาล

(30 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียน หลังมีคลิปภาพที่ถูกแอบถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ เป็นภาพเหตุการณ์ กรณี เด็กนักเรียนหญิง ชั้น ป.6 โรงเรียนบ้านลำหาด จ.สุรินทร์ เนื่องจากมีนักเรียนป่วย แพทย์วินิจฉัยว่าแพ้อาหาร เมื่อคุณครูทราบเรื่อง ทำให้เกิดความเสียหายเกี่ยวกับโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียน จึงเรียกให้เด็กนักเรียนหญิงมากราบขอขมาที่บริเวณหน้าเสาธง ท่ามกลางนักเรียนหลายนับร้อย

นายคงฤทธิ์ ไชยแสนท้าว ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านลำหาด ได้เรียกคุณครูที่ปรากฏภาพในคลิป มาชี้แจงข้อเท็จจริง ทราบชื่อต่อมาภายหลังคือ ครูชื่นกมล ครูวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ สอนวิชาวิทยาศาสตร์ และรับผิดชอบงานฝ่ายปกครอง

จากการสอบถาม ทราบว่าหลังเกิดเหตุ ได้มีการทำบันทึกข้อความ เรื่องขอความอนุเคราะห์สำรวจนักเรียนที่แพ้อาหาร แจ้งไปยังครูประจำชั้น อนุบาลปีที่ 1-มัธยมปีที่ 3 ข้อความว่า ครูชื่นกมล รับผิดชอบงานอนามัยนักเรียนและโครงการอาหารกลางวัน ก่อนหน้านี้มีการประชุมให้เด็กหันมาทานโปรตีนจากถั่วเหลืองแทนเนื้อสัตว์ เพื่อสุขภาพนักเรียนและยังเป็นการสนองนโยบายโรงเรียนวิถีพุทธ

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา เวลา 13.30 น. ได้รับแจ้งจากแม่ครัวจะมีการปรับเปลี่ยนรายการอาหาร เนื่องจากที่นักเรียนได้รับประทานให้ข้อมูลว่า นักเรียนมีอาการแพ้เต้าหู้ไข่ จากการตรวจสอบสมุดบันทึกการให้ยาของนักเรียนที่ผ่านมา ไม่มีนักเรียนมาขอใช้ยาที่เกิดจากอาการแพ้อาหาร

เด็กนักเรียน ชั้น ป.3 ที่เห็นเหตุการณ์ รายหนึ่ง กล่าวว่า ตนและเด็กนักเรียนได้รับประทานอาหารกลางวัน เมนู แกงจืดเต้าหู้ ไม่มีใครแพ้อาหาร มีเพียงพี่นักเรียนผู้หญิงคนดังกล่าวแพ้อาหารเพียงคนเดียว เพราะพี่เขาไม่เคยรับประทาน

ขณะที่ เด็กนักเรียนชั้น ป.6 ที่แพ้แกงจืดเต้าหู้ กล่าวว่า ตนรับประทานอาหารกลางวันกับเพื่อน ทานแกงจืดเต้าหู้ ไม่ใส่เส้น พอรับประทานอาหารเสร็จก็ออกไปข้างนอกโรงอาหาร เพื่อซื้อน้ำดื่ม กลับมานั่งเล่นกับเพื่อนๆ พอเกือบเวลาบ่ายแก่ๆ เริ่มมีอาการคันที่บริเวณท้องและเริ่มขึ้นตุ่ม

ออกมาเล่นวอลเลย์บอลกับเพื่อนๆ พอช่วงเย็น ตุ่มยิ่งแต่ขึ้น พอไปหาหมอก็ฉีดยาแก้แพ้หนึ่งเข็ม พร้อมจ่ายยาให้มารับประทานที่บ้าน หมอบอกว่า แพ้เต้าหู้ ตนอยากให้เรื่องนี้จบ แบบไม่ต้องทำอะไรแล้ว โดยไม่ต้องบอกว่าใคร ถูกใครผิด ระหว่างครูกับนักเรียน

ครูชื่นกมล ครูผู้รับผิดชอบโครงการอาหารกลางวัน กล่าวว่า อาหารกลางวัน ทางโรงเรียนได้เสริมเมนู ต้าหู้ไข่ ซึ่งเต้าหู้ไข่ก็แพงกับงบประมาณที่ทาง อบต.ทับทัน สนับสนุนให้เพียง 3,360 บาท จัดเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กนักเรียนทั้งโรงเรียน จำนวน 234 คน แล้วงบมาแค่ 173 คน แต่ต้องทำเลี้ยงทั้งโรงเรียน เต้าหู้ไข่หลอดละ 10 บาท

คลิปภาพที่ปรากฏเป็นแค่เรื่องแค่เด็กรับประทานเต้าหู้ไข่ ปรากฏว่า มีคุณครูคนหนึ่งมาบอกกับแม่ครัว ว่ามีเด็กรับประทานแล้วแพ้ แต่กลับไม่มีใครบอกว่าเด็กคนไหน เพื่อที่นำไปตรวจเลือด เพราะตนรู้ว่าถั่วลิสง ถ้าแพ้แล้วมันอันตราย โดยทำบันทึกให้ครูสำรวจมา

ปรากฏว่าเด็กคนนี้จากการสืบปรากฏว่าป่วย ทางโรงเรียนเสียประกันเยอะ ได้สอบถามว่าเป็นจริงไหม พร้อมเชิญผู้ปกครอง มา โรงเรียนจะขอทดสอบ คุณแม่ก็บอกอนุญาต คุณแม่ก็มานั่งดูด้วย โดยครูได้เฝ้าดู 24 ชั่วโมง แต่ขออย่างเดียวถ้าเกิดไม่ใช่ ขอให้เด็กมากราบขอโทษคุณครูได้หรือไม่ เพราะมีการพูดให้โรงเรียนเสียหาย ซึ่งแม่เด็กได้พูดกลับมาว่า เพราะลูกกินอาหารกลางวันของโรงเรียน ทำให้ลูกเป็นเช่นนี้

หลังจากที่พิสูจน์แล้วว่าเด็กไม่แพ้ ได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน และบอกกับครูทุกคนว่าเด็กไม่แพ้เต้าหู้ไข่ โดยสังเกตจาก มือ แขน และร่างกาย ปรากฏว่าไม่มีอาการแพ้ กระทั่งวันจันทร์ให้นักเรียนมากราบคุณครู เด็กก็เข้ามา ตนก็ยอมรับว่าเป็นคนที่พูดแรงพูดหนักไป

ตนเป็นคนที่มีเหตุมีผล เป็นครูวิทยาศาสตร์ เชื่อถือได้ ถ้าผู้ปกครองบอกว่า กินอันนั้นก็แพ้ กินอันนี้ก็แพ้ ทุกคำพูดต้องมีหลักฐาน และต้องพิสูจน์ได้ ถ้าไปเชื่อทุกคนเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านลำหาดก็ไม่ต้องกินอะไร เด็กนักเรียนผู้ชายที่เห็นในคลิปขึ้นมา เพราะน้องสาวเขาไม่ทำ น้องสาวได้แต่ร้องไห้ คือไม่รู้ว่าจะทำอะไร พี่ชายก็เลยขึ้นมาสั่งน้อง บอกว่า เมื่อเราผิด เรากราบคุณครูเลย ที่ผิดคือเด็กโกหก

เมื่อกราบไหว้เสร็จ ตนก็ให้นักเรียนทุกคนปรบมือ พร้อมพูดว่า นี้คือตัวอย่างของเด็กที่ดี เมื่อเราทำผิด แล้วกล้ายอมรับผิดชอบ ถ้าวันหนึ่งถ้าเธอโตไปเป็นผู้ใหญ่ เธอไปพูดบอกว่า กินตรงนั้นแพ้ กินตรงนี้แพ้ แล้วถ้าเป็นร้านอาหารใหญ่ๆ เขาฟ้องคุณตายไหม ตนไม่ทราบว่ามีการถ่ายคลิปเอาไว้ แต่เชื่อว่าสิ่งที่ตนทำมันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และเป็นสิ่งที่ครูสอนนักเรียน อิงด้วยหลักฐานจาก สปฐ.มาให้ดูแลเด็กนักเรียนให้ดีที่สุด

http://news.sanook.com/2058158/