หลังจากงานทุ่งดอกกระเจียวบานผ่านพ้นไปแล้ว จันดง (ศิรพันธ์ วัฒนจินดา) หญิงสาวนักพัฒนาและผู้ก่อตั้งกองทุนเพื่อการเกษตรครบวงจรของชุมชนบ้านเขาตาเย็น จึงได้เดินทางเข้ามากรุงเทพฯ เพื่อมาดูกิจการโรงงานทำขนมตามคำชักชวนของ หญิงจงกล (วัชรารัศมี สุนทรพนาเวช) ภรรยาของ อินทร์ (เป็ด เชิญยิ้ม) ถึงจะมีฐานะร่ำรวยแต่หญิงจงกลก็ยังสำนึกรักบ้านเกิดของตัวเองเช่นเดียวกับอินทร์ ทั้งสองจึงเลี้ยงควายไว้ในบริเวณคฤหาสน์ที่กว้างใหญ่ของตัวเองด้วย
การมาของจันดงถึงแม้จะเป็นการเห็นชอบของหญิงจงกลกับพระอินทร์ก็ตาม แต่ก็ทำให้ทั้งสองต้องมีเรื่องพูดจาค่อนขอดกันตลอด เพราะในอดีตทั้งสองคนเคยเป็นคู่รักของ ผู้ใหญ่เมือง (วรุฒ วรธรรม) กับ จันดา (ปุณิกา โยคะกุล) พ่อและแม่ของจันดง สาเหตุที่หญิงจงกลอยากจะให้จันดงมาฝึกงานที่โรงงานทำขนมของเธอ เพราะเธออยากจะสนับสนุนข้าวทดลองของจันดงและชาวบ้านเพื่อเอามาผลิตขนม ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คืออยากจะให้จันดงช่วยเปลี่ยนพฤติกรรม คุณชายอุษมัน (นัฐฐพนธ์ ลียะวณิช) ลูกชายที่ไม่ค่อยเอาไหนเอาแต่ผลาญเงินและติดผู้หญิงไปวัน ๆ โดยเฉพาะผู้หญิงที่ชื่อ นงพะงา (ชาลิสา บุญครองทรัพย์) หญิงจงกลถึงกับประกาศห้ามลูกชายคบเด็ดขาด แต่ผู้หญิงที่อุษมันรักจริงหวังแต่งและเหมาะสมกับเขาในทุกเรื่องคือ กะชามาด (ปิยะดา ตุรงคกุล) เจ้าของร้านดอกไม้แสนสวยที่หญิงจงกลเห็นดีเห็นงามด้วย แต่เธอกลับไปให้ความสนใจ ลายแคน (จุตรวิทย์ คชน่วม) หนุ่มบ้านนอกที่อยู่ใกล้กับบ้านของจันดง ซึ่งหญิงจงกลให้ความอุปถัมภ์เลี้ยงดูจนเรียนจบและให้มาช่วยดูแลโรงงานทำขนม อุษมันไม่ค่อยพอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ส่วนลายแคนก็ไม่กล้าที่จะเอื้อมเด็ดดอกฟ้าอย่างกะชามาด
ด้านจันดง ก็ต้องปลอมตัวให้กลายเป็นคนอ้วนฟันเหยิน เพราะไม่อยากให้อุษมันจำได้ว่าเธอคือ ผู้หญิงคนที่มีเคยเรื่องกับเขา และอยากจะสอนให้อุษมันรู้ว่าคนรวยคนจนก็มีความเป็นคนไม่ควรดูถูกคนอื่น โดยจันดงบอกทุกคนว่าเธอชื่อจันดง เป็นน้องสาวฝาแฝดของ จันได อุษมันรู้สึกอึดอัดใจที่ต้องขับรถไปรับส่งเธอถึงที่พักทุกวัน ตามคำสั่งของผู้เป็นแม่ชนิดที่ขัดขืนไม่ได้ และด้วยความบังเอิญอพาร์ทเมนท์ที่จันดงไปพักนั้นเป็นของนงพะงา จึงทำให้นงพะงาไม่พอใจที่เห็นอุษมันมารับจันดง เพราะเธอเคยมีเรื่องทะเลาะกับจันไดและกะชามาดครั้งที่ไปเที่ยวผับกับอุษมัน
ทางด้านจันดงกับกะชามาดหลังจากที่รู้จักกันในผับด้วยความบังเอิญ ทำให้ทั้งคู่มีถูกชะตากันและมีความสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว ในช่วงฝึกงานอุษมันกับจันดงเป็นคู่กัดกันตลอด เมื่อครบกำหนดฝึกงานจึงมีการเลี้ยงส่งจันดง โดยมีอุษมันและกะชามาดมาร่วมงานด้วย แต่เพราะอุษมันหึงกะชามาดจนมีเรื่องชกต่อยกับลายแคน และอุษมันก็พูดจาดูถูกลายแคน ทำให้ลายแคนตัดสินใจลาออกแล้วกลับบ้านนอกพร้อมกับจันดง โดยไม่ได้ลาผู้ใหญ่ที่เคารพ พอหญิงจงกลกับพระอินทร์ทราบเรื่อง รู้สึกโกรธมากและลงโทษลูกชายโดยสั่งให้ไปตามลายแคนกลับมาทำงานเหมือนเดิม พร้อมทั้งขอโทษที่พูดจาดูถูกจันดงว่าเป็นคนบ้านนอกด้วย เท่านี้ยังไม่พออุษมันถูกส่งไปดัดสันดานที่เขาตาเย็น โดยให้ไปอยู่ที่บ้านของผู้ใหญ่เมืองกับจันดาเป็นเวลา 3 เดือน ทีแรกอุษมันไม่อยากไปพอรู้ว่ากะชามาดจะไปตามลายแคนจึงยอมไปแต่โดยดี
เมื่อจันดงกลับมาอยู่บ้านก็ต้องพบว่าโรงเก็บปุ๋ยหมักอินทรีย์ที่เธอทดลองทำ เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรในหมู่บ้านได้ใช้ของถูกและดี ถูกปล้นและทำลายจนเสียหายโดยฝีมือของ เสี่ยชัชชัย (สุพจน์ จันทร์เจริญ) เจ้าของธุรกิจค้าปุ๋ยรายใหญ่แห่งเขาตาเย็น โดยมี ธง (เด๋อ ดอกสะเดา) คนในหมู่บ้านที่ผู้ใหญ่เมืองกับจันดาจ้างให้มาเฝ้าโรงเก็บปุ๋ย ร่วมมือกับ สายธาร (ลักขณา วัธนวงส์ศิริ) ลูกสาวของตัวเองรับจ้างทำงานนี้ แล้วโยนความผิดไปให้ ชมชาญ (จาตุรงค์ โกลิมาศ) คนฉายหนังเร่ เพราะธงติดหนี้พนันเยอะจึงต้องหาเงินไปใช้หนี้ และเสี่ยก็รู้ความลับว่าธงกับสายธารเป็นพ่อลูกกัน ธงได้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับกับทุกคนในหมู่บ้าน เพราะไม่อยากให้เมียอ้วน (แอน กรุณา) รู้ความจริงว่าตัวเองเคยมีลูกมีเมียมาก่อน ไม่อย่างนั้นจะไม่ได้รับความช่วยเหลือเลี้ยงดูในเรื่องเงิน ส่วนสายธารต้องเอาตัวเข้าแลกจึงได้รถจากเสี่ยเอาไว้ขับไปร้องเพลงในที่ต่าง ๆ
พออุษมันมาอยู่ร่วมชายคาเดียวกับจันดง ทำให้จันดงต้องกลับไปใส่ฟันเหยินเหมือนเดิม จนทุกคนในบ้านสงสัยแต่จันดงก็เอาตัวรอดไปได้แต่ไม่สามารถรอดพ้นจากน้องชายอย่าง ก้านแก้ว (ด.ช.ปภิชาญ คัมภิรานนท์) ไปได้ ทางด้านลายแคนก็ต้องพากะชามาดมาฝากไว้กับบ้านจันดง เพราะเขาไม่อยากให้คนนินทากะชามาด ด้านจันดงก็เอาคืนอุษมันด้วยการให้อุษมันไปช่วยนอนเฝ้าโรงเก็บปุ๋ยหมักแทนลุงธง ถึงแม้จะมีคนหนุ่มอย่างอุษมันมานอนเฝ้าโรงเก็บปุ๋ยหมัก เสี่ยชัชชัยก็ไม่กลัวสั่งให้ธงเอาสารเคมีไปโรยในปุ๋ยหมัก และยังส่งสมุนไปทำร้ายอุษมันแต่ทุกอย่างก็ไม่สำเร็จ เพราะมีจันดงพร้อมพ่อกับแม่และชาวบ้านมาช่วยไว้ทัน แต่อุษมันก็ได้รับบาดเจ็บ
จากเหตุการณ์ร้ายนี้ทำให้อุษมันกับจันดงเริ่มที่จะมีความรู้สึกที่ดีในใจต่อกันขึ้นมาบ้าง แต่เพราะทั้งสองต่างคิดว่าลายแคนชอบจันดงและอุษมันชอบกะชามาด จึงทำให้ต่างฝ่ายไม่กล้าที่จะแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา ผิดกับกะชามาดที่กล้าแสดงออกว่ารักลายแคน แต่ฝ่ายชายก็ยังนิ่งเฉยจนทำให้ฝ่ายหญิงรู้สึกสงสารตัวเอง ทางด้านหญิงจงกลกับพระอินทร์เมื่อรู้ข่าวร้ายของลูกชาย จึงรีบไปที่เขาตาเย็นทันทีโดยไม่รู้ว่านงพะงาแอบขับรถตามมาด้วย ส่วนลายแคนกำลังจะย้ายไปอยู่ที่ไร่ของตัวเอง ตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับอุษมัน ว่าเขาจะไม่พบเจอกับกะชามาดอีก
พระอินทร์กับหญิงจงกลมาจอดรถที่หน้าบ้านของลายแคน ส่วนนงพะงาพอรู้ว่าอุษมันพักอยู่ที่บ้านจันดงก็รีบตรงดิ่งไปทันที ส่วนลายแคนพาพ่อกับแม่มาหาอุษมันที่บ้านผู้ใหญ่เมือง อุษมันจึงบอกลายแคนว่าไม่ต้องไปไหนแล้ว แต่ลายแคนยังยืนยันว่าจะไปทำไร่ของตัวเอง ในขณะที่นงพะงาคิดไม่ตกว่าจะไปพักที่ไหน เสี่ยชัชชัยขับรถผ่านมาพอดี นงพะงาดีใจมากเพราะเสี่ยชัชชัยเป็นอาของเธอเอง ด้านกะชามาดได้โอกาสขอไปนอนค้างที่บ้านของลายแคน พร้อมกับพ่อแม่ของอุษมันด้วย
ก้านแก้วพาอุษมันไปเดินชมนาข้าวที่เหลืองอร่ามดั่งทอง ในขณะที่เสี่ยชัชชัยก็สั่งให้ลูกน้องเอาหอยเชอรี่ไปปล่อยในนาข้าวของจันดง พอดีจันดงมาตามหาก้านแก้วจึงเจอคนร้าย ส่วนอุษมันเห็นเช่นกันทั้งสองจึงช่วยกันต่อสู้ เสี่ยชัชชัยรีบโทรศัพท์เรียกให้ลูกสมุนรีบหนี เพราะชาวบ้านต้องแห่กันมาเพราะเสียงปืนที่ยิงออกไป ในขณะที่ต่อสู้กันฟันของจันดงตกหายไปในนาข้าว จันดงจึงบอกอุษมันว่าเธอคือจันได พอนงพะงามาเจอจันดงที่เธอคิดว่าเป็นจันได เลยมีเรื่องทะเลาะตบตีกันจันดงเลยเอาถุงหอยเชอรี่เทใส่หัวนงพะงา ผู้ใหญ่เมืองพาชาวบ้านมาที่ทุ่งนา นงพะงาจึงพูดใส่ร้ายว่าจันดงเอาหอยเชอรี่มาปล่อย ทำให้ชาวบ้านเริ่มไม่ไว้ใจจันดงกับอุษมัน เพราะตั้งแต่สองคนนี้มาหมู่บ้านก็มีแต่เรื่องวุ่นวายทุกวัน