วัฒนธรรมอันดีงามของชาวไทยในช่วงหน้าร้อน คือ ประเพณีสงกรานต์ ที่มีการทำบุญร่วมกันในครอบครัว เพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว ยังมีการนำน้ำมาสาด รดเล่นกันอย่างสนุกสนาน นับว่าเป็นความฉลาดของคนไทย ตั้งแต่ครั้งโบราณนำน้ำมาเล่นกันเพื่อคลายร้อนในช่วงนี้ปัจจุบันรูปแบบการเล่นน้ำสงกรานต์มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบ เล่นกันอย่างรุนแรง โอกาสที่จะเกิดปัญหาหรือเกิดอุบัติตามมาก็อาจมีได้ ฉะนั้นควรคำนึงถึงความปลอดภัยทั้งของตนเองและผู้อื่น ควรใช้น้ำสะอาด เช่น น้ำประปา เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนมากับน้ำ ต้องระมัดระวังตนเองไม่ให้สําลักน้ำ
ในบางครั้งอาจจะหาน้ำประปาไม่ได้ ถ้าใช้น้ำตามแม่น้ำ ลำคลอง ที่ดูค่อนข้างใส สะอาด และไหลเวียนดี ก็ไม่น่าจะมีปัญหาถ้าเราเล่นด้วยความระมัดระวัง แต่น้ำที่สกปรก เช่น น้ำคลำ น้ำตามคู หรือน้ำขังที่ไม่สะอาดไม่ควรนำมาเล่นกัน
ถ้าน้ำที่เราเล่นกันไม่สะอาด เมื่อน้ำเข้าตาก็ต้องล้างตาด้วยน้ำที่สะอาด ในกรณีที่สำลักน้ำเข้าทางปาก ก็จะขึ้นอยู่กับจำนวนเชื้อและลักษณะของน้ำ ถ้าน้ำมีเชื้อโรคไม่มาก ก็คงไม่ทำให้เกิดโรค แต่ถ้าในกรณีที่น้ำสำลักเข้าทางจมูก ก็คงจะต้องรอดูว่ามีอาการไข้ น้ำมูกไหล หรือปวดศีรษะหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดสามารถป้องกันได้ด้วยการใช้น้ำสะอาดในการเล่นสงกรานต์
นอกจากนี้ยังมีข้อควรระวังเกี่ยวกับการนำวัสดุ อุปกรณ์ที่นำมาใส่น้ำและนำมาสาด รดเล่นในช่วงสงกรานต์ ไม่ควรนำภาชนะหรือถังน้ำที่ผสมสารเคมี เช่น ยาปราบศัตรูพืชหรือยาฆ่าหญ้ามาใส่น้ำโดยเด็ดขาด ถึงแม้ว่าภาชนะนั้นใช้แล้วล้าง และไม่มียาปราบศัตรูพืชหรือยาฆ่าหลงเหลืออยู่แล้วก็ตาม เพราะหากนำมาใส่น้ำสาด หรือรดเล่น จะเกิดผลกระทบต่อร่างกายหลายระบบ เช่น ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ได้แก่ ผิวหนังแห้งไหม้ มีรอยแดง ด่าง ระคายเคือง จมูก คอ ตา น้ำตาไหล เล็บมือ เล็บเท้าเปลี่ยนสีถึงขั้นหลุดลอก หรือหากรุนแรงอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ดังนั้นผู้ปกครองควรเก็บภาชนะ หรือวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสารเคมี และสารกำจัดสัตรูพืชให้มิดชิดและพ้นจากเด็ก นอกจากนี้ยังไม่ควรปล่อยให้มีสารเคมีเหล่านี้ตกค้างอยู่ในเครื่องมือฉีดพ่นทางการเกษตร โดยควรตรวจสอบ ดูแล ตักเตือน เพราะอาจเกิดเหตุที่ไม่คาดฝันได้
ดังนั้น หากมีเหตุอันตรายจากการใช้ภาชนะที่ผสมสารเคมีมาใช้สาด ลดเล่นสงกรานต์ การปฐมพยาบาลเบื้องต้นมีความสำคัญ เพื่อช่วยลดความเจ็บป่วยลดโอกาสพิการและเสียชีวิต เช่น
เมื่อมีผู้ได้รับอันตรายที่ผิวหนัง ให้ล้างผิวหนังในบริเวณที่ถูกสารเคมี โดยใช้น้ำสะอาดล้างให้มากที่สุด ถ้าหกรดเสื้อผ้าให้รีบถอดเสื้อผ้าออกก่อน ห้ามใช้สารอื่นๆ เทลงไปบนผิวหนัง เพราะอาจทำให้แผลกว้างและเจ็บมากขึ้น
น้ำปนเปื้นสารเคมีเข้าตา ให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดให้มากที่สุดทันที โดยเปิดเปลือกตาขึ้นให้น้ำไหลผ่านตาอย่างน้อย 15 นาที ป้ายขี้ผึ้งป้ายตา แล้วรีบนำส่งแพทย์โดยเร็วห้ามใช้สารเคมีแก้พิษใด ๆ ทั้งสิ้น หากเข้าปาก ควรนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที
การเล่นน้ำสงกรานต์ตามประเพณี เป็นการเล่นเพื่อความสนุกสนานไม่ควรเล่นอย่างรุนแรง ใช้น้ำที่สะอาด โดยคํานึงถึงความปลอดภัยของทุกคน และอย่าเล่นจนลืมห่วงใยสุขภาพของตนเอง