อย่างนี้ก็มีด้วย! เรียนทีเดียวจบ2ปริญญา ทางเลือกทางรอด หวังหางานง่ายขึ้นศ.พิเศษ มณฑล สงวนเสริมศรี อธิการบดีมหาวิทยาลัยพะเยา (มพ.) กล่าวต่อ นโยบายการเปิดหลักสูตรการเรียนควบ 2 ปริญญา ว่าในโลกอนาคตการเรียนเพียงด้านใดด้านหนึ่งอาจไม่เพียงพอ ตลาดแรงงานในอนาคตต้องการคนที่มีทักษะในหลายๆ ด้าน

ดังนั้นในการพัฒนานิสิตให้มีความสามารถเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน การเปิดหลักสูตรการเรียนควบ 2 ปริญญา จะทำให้ผู้เรียนได้เปรียบในเรื่องโอกาสการได้งานทำมากขึ้น โดยนิสิตที่เลือกเรียนควบ 2 ปริญญา ต้องเรียนรายวิชาครบตามหลักสูตรทั้ง 2 หลักสูตรเพื่อให้ได้ทั้ง 2 ปริญญาเช่นเดียวกับคนที่เรียนเพียงปริญญาตรีปริญญาเดียว

อาทิ ปริญญาวิทยาศาสตร์บัณฑิต (วทบ.คณิตศาสตร์) คู่กับปริญญาการศึกษาบัณฑิต (กศบ.) นิสิตที่จบออกมาหากสอบบรรจุครูก็จะเป็นครูที่มีความรู้ด้านคณิตศาสตร์ในระดับที่เข้มข้นเท่ากับคนที่เรียน วิทยาศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาคณิตศาสตร์เลยทีเดียว

หลักสูตรการเรียน 2 ปริญญาควบคู่นี้ จะใช้เวลาเรียน 5 ปี โดยวิชาศึกษาทั่วไปจะเรียนเหมือนกันหมดส่วนวิชาหลักของแต่ละปริญญาก็ต้องเรียนให้ครบตามโครงสร้างหลักสูตรของทั้ง 2 ปริญญา

“นักศึกษาสนใจเรียนมากทีเดียว โดยเฉพาะหลักสูตรด้านครู คนที่จบคณิตศาสตร์ หรือ เคมี อย่างเดียว พอมาสอนอาจมีทักษะการถ่ายทอดได้ดีไม่เท่าคนที่คนที่เขาเรียนควบ วทบ.(คณิตศาสตร์) กับ กศบ.” ศ.พิเศษ มณฑล กล่าว

รศ.ดร.สุภกร พงศบางโพธิ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มพ. กล่าวเพิ่มเติมว่า การเรียนควบ 2 ปริญญา มหาวิทยาลัยจัดการเรียนการสอนด้วยกันทั้งหมด 19 คู่ด้วยกัน ส่วนใหญ่จะเป็นการจับคู่ศาสตร์ด้านครู อาทิ วทบ.( คณิตศาสตร์ เคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา) คู่กับ กศบ. ซึ่งได้รับการตอบรับดีมาก โดยการเรียนควบ 2 ปริญญานี้มีนิสิตจบไป 2 รุ่นแล้ว แม้ว่าเด็กอาจจะเรียนหนักกว่านิสิตที่เรียนเพียงปริญญาเดียว เพราะต้องเก็บหน่วยกิตให้ครบทั้ง2 หลักสูตร แต่ก็ถือว่าคุ้มกับการทุ่มเทเพราะจะได้ ปริญญา 2 ใบเลย และยังใช้งบประมาณและเวลาเรียนน้อยกว่าเมื่อเทียบกับหากต้องเรียนปริญญาตรีทีละปริญญา

ส่วนที่ได้รับความนิยมในการสมัครเข้ามาเรียนไม่แพ้กัน คือ ปริญญาศิลปศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาภาษาอังกฤษ และ ปริญญาศิลปศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาภาษาไทย ควบกับ กศบ.

นอกจากนี้ ยังมีคู่ของ บัญชีบัณฑิตควบกับนิติศาสตร์บัณฑิต และอื่นๆ อีกรวม 19 คู่ ด้วยกัน จากที่เปิดหลักสูตรมาจนถึงปัจจุบัน มีบ้างที่ขอกลับไปเรียนปริญญาเดียว แต่ก็มีเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ ของเด็กที่เรียนปริญญาตรีควบเท่านั้น

หลักสูตรนี้เรามีคณะกรรมการติดตามดูตลอดเวลา อนาคตจะจัดหลักสูตรควบ 2 ปริญญาเพิ่มในคู่อื่นๆอีกหรือไม่ ต้องดูตลาดความต้องการของแรงงานก่อน แต่ตอนนี้เรากำลังทำ ดิจิตอล อินโนเวชั่น สอดแทรกเรื่องนี้เข้าไปในหลักสูตร และจัดการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ โดยเริ่มที่วิชาศึกษาทั่วไปผ่านระบบออนไลน์ให้เด็กได้มีทางเลือกเพิ่ม และกำลังพัฒนารายวิชาอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อให้นิสิตของเราสามารถเรียนรู้ได้ตลอดเวลา

ยุวเรศ งามทรง นิสิตหลักสูตรควบ 2 ปริญญา กล่าวว่า อยากเป็นครูตั้งแต่เด็กๆ ขณะเดียวกันก็ชอบวิชาคณิตศาสตร์ พอเห็นหลักสูตรนี้ เลยตัดสินใจเลือกเรียน วทบ.คณิศาสตร์ คู่กับ การศึกษาบัณฑิต เรียนค่อนข้างหนัก 4 ปีนี่จะต้องเรียนซัมเมอร์ทุกปี ทั้งวิชาหลักของหลักสูตร วทบ. และวิชาของหลักสูตร กศบ. เกี่ยวกับการสอน การวิจัย ทั้งในภาคเรียนปกติ และในภาคซัมเมอร์

ส่วนปีที่ 5 ต้องไปฝึกสอนทั้งปีเลย การเรียนแบบนี้โดยส่วนตัวคิดว่าเราได้เปรียบคนอื่น โดยเฉพาะในการสอบเข้าบรรจุครู ซึ่งสอบได้บรรจุเป็นครูในโครงการครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น จ.แพร่

โยธิน ใจอ่อน อีกหนึ่งนิสิตในหลักสูตรควบ 2 ปริญญา กล่าวเสริมว่า เพิ่งจบเมื่อ มีนาคม ปี พ.ศ. 2559 หลักสูตร วทบ.คณิตศาสตร์ คู่หลักสูตร กศบ. เช่นเดียวกัน การเลือกเรียน 2 ปริญญา คิดว่าเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับตัวเอง และที่สนใจเป็นครูเพราะได้แรงบันดาลใจมาจากครูสอนคณิตศาสตร์ปัจจุบันเป็นครูสมใจโดยสอนที่โรงเรียนลาดปลาเค้าพิทยาคม กทม.

สำหรับการเรียนหลักสูตรนี้ แม้จะเรียนค่อนข้างหนัก แต่ผมว่าผลที่ได้รับกลับมามันคุ้มค่ามากและใช้เวลาน้อยกว่า งบประมาณในการเรียนก็ใช้น้อย กว่าหากเปรียบเทียบกับการเรียนทีละปริญญาให้ได้ถึง 2 ใบ ที่นี่เรียนแบบช่วยเหลือซึ่งกันและกัน วิชาไหนยากเราก็เปิดคลาสติวกันเลยจบมาเกรด 3.8 กว่า ทั้ง 2 ปริญญาเลย

การเรียนควบ 2 ปริญญา นอกจากได้เปรียบโดยเฉพาะในการนำไปสอบบรรจุครูแล้ว ถ้าไม่ต้องการเป็นครู ก็สามารถนำปริญญา วทบ.ไปสมัครงานตามบริษัทเอกชนได้เช่นกัน ทำให้มีโอกาสได้เลือกในหลายๆทาง การเรียนแบบควบ 2 ปริญญาแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องเก่งก็ได้ แต่ต้องมีความตั้งใจและใจต้องสู้เพราะเรียนหนักเหมือนกัน

http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/750271