พบมหันตภัยยาบ้า ก่อโรคพาร์กินสัน  (ไทยโพสต์)

นักวิจัย ม.มหิดลเผยสารแอมเฟตามีนในยาบ้าทำลายเซลล์สมอง ผู้ติดยามีโอกาสเป็นโรคพาร์กินสัน เล็งต่อยอดวิธีรักษาใหม่ด้วยสเต็มเซลล์ ช่วยชะลอสมองเสื่อม พบเด็กติดเกมกับติดยาสูญเสียการเรียนรู้และความจำเหมือนกัน

ศ.ดร.ปิยะ รัตน์ โกวิทตรพงศ์ หัวหน้าศูนย์วิจัยประสาทวิทยาศาสตร์   สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า จากการศึกษาวิจัยผลกระทบของการเสพสารแอมเฟตามีนหรือยาบ้าในเชิงวิทยาศาสตร์ ทางเคมี พบว่าสารแอมเฟตามีนเป็นตัวทำลายระบบประสาทและเซลล์สมอง ทำให้สูญเสียการเรียนรู้และความจำ การพัฒนาเซลล์สมองผิดปกติ และมีลักษณะแบบเดียวกับเซลล์สมองของผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน ผลสรุปคือ ผู้เสพติดยาบ้ามีโอกาสสูงที่จะเป็นโรคพาร์กินสันในอนาคต ขณะนี้อยู่ระหว่างการวิจัยต่อยอดในเรื่องเซลล์ต้นกำเนิดหรือสเต็มเซลล์ เพื่อเป็นวิธีใหม่ในการป้องกันและบำบัดรักษาผู้ติดยาบ้าในอนาคต

ศ.ดร.ปิยะ รัตน์กล่าวว่า ผู้ป่วยโรคพาร์กินสันมีสาเหตุเกิดจากระบบประสาทที่เรียกว่าโดปามีนถูกทำลาย ทำให้เคลื่อนไหวร่างกายลำบาก ลำตัวแข็งเกร็งและเดินไม่ได้ ในขณะที่ผู้เสพยาบ้าที่มีสารแอมเฟตามีนเข้าไปในสมองก็จะทำลายระบบประสาทโดปา มีน โดยผู้เสพยาบ้าในช่วงแรกๆ จะมีความรู้สึกสุขสบาย เพราะได้หลั่งสารโดปามีน แต่เมื่อเสพยาบ้ามากๆ สารโดปามีนก็จะกลายเป็นอนุมูลอิสระที่ไปทำลายเซลล์สมองเหมือนคนป่วยโรคพา ร์กินสัน ดังนั้นจึงคาดการณ์ว่าในอนาคตประเทศไทยจะมีผู้ป่วยโรคพาร์กินสันเป็นจำนวนมาก

“จากการเจาะเลือดผู้เสพยาบ้าตรวจพบอนุมูลอิสระเยอะมาก ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคพาร์กินสัน นอกจากนี้ ผลวิจัยยังพบตัวบ่งชี้คนที่เป็นโรคพาร์กินสัน ในสมองจะสร้างโปรตีนชื่ออัลฟาซินนิวคริน ซึ่งคนทั่วไปไม่มีโปรตีนตัวนี้ เมื่อฉีดสารแอมเฟตามีนเข้าไปในหนูทดลอง ก็พบว่าหนูสร้างโปรตีนตัวนี้ขึ้นในสมองเช่นกัน” ศ.ดร.ปิยะรัตน์ เผย

สำหรับการรักษาผู้เสพยาบ้าที่เป็นโรคพาร์กินสันด้วยวิธีสเต็มเซลล์นั้น การศึกษาวิจัยอยู่ในขั้นทดลองโดยการเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์ เพื่อนำมาสร้างเซลล์ใหม่ให้สมองส่วนที่ถูกทำลายและสูญเสียไปจากการเสพสารแอ มเฟตามีน ในอนาคตอาจจะมียาใหม่ที่ใช้รักษาผู้ป่วยสมองเสื่อม