|
|
อ.พญ.ณัฏฐา สกลสัตยาทร ภาควิชาจักษุวิทยา : บทความ
นิษฐ์ภัสสร ห่อเนาวรัตน์ : เรียบเรียง
ดวงตาเป็นอวัยวะที่ซับซ้อน ละเอียดอ่อน และมีความสำคัญมาก ฉะนั้นการจะทำอะไร
ใกล้ๆ ดวงตา จึงต้องระวังให้มาก โดยเฉพาะ “การต่อขนตาถาวร”
ปัจจุบันการต่อขนตาถาวรกำลังเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่น เพราะทำให้ตาคมโต เพิ่มความโดดเด่นให้กับใบหน้า แต่หน้าที่หลักของขนตา คือ การป้องกันฝุ่นละอองและเหงื่อเข้าตา โดยที่โคนขนตาแต่ละเส้นจะมีต่อมไขมันและต่อมเหงื่อช่วยผลิตไขมันและน้ำไปหล่อเลี้ยงในดวงตา เพื่อเคลือบกระจกตาให้ชุ่มชื้น ทำให้ดวงตาไม่แห้ง
ฉะนั้น การนำวัสดุแปลกปลอมมาติดตามเส้นขนตา จะทำให้เกิดการสะสมเชื้อโรคและสิ่งสกปรกอย่างมาก ที่สำคัญคือ เชื้อแบคทีเรียก่อให้เกิดอาการแพ้ระคายเคืองหรืออักเสบ และอาจนำไปสู่การติดเชื้อภายในลูกตา หากเป็นรุนแรง อาจเสี่ยงตาบอดได้ ประกอบกับเปลือกตาเป็นผิวที่บอบบาง การใช้กาวซึ่งเป็นสารเคมีติดถึงตำแหน่งโคนขน จะทำให้ขนตาเปราะบาง หัก หลุดร่วงได้ง่าย และทำให้เกิดอาการแสบตา ผิวหนังอักเสบ เกิดตุ่มพุพอง หรือเป็นหนองได้ การอักเสบอาจถึงขั้น ทำให้ต่อมรากขนตาฝ่อ ส่งผลให้ขนตาหยุดงอกใหม่
ดังนั้น ผู้ที่ต่อขนตาปลอมถาวรมาแล้ว ต้องหมั่นดูแลรักษาความสะอาด เช่น ใช้สำลีชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดเบาๆ ไม่ควรขยี้ตา การถอดหรือดึงขนตาปลอมออก อาจจะมีขนตาจริงหลุดติดมา อย่าตกใจ เพราะขนตาสามารถงอกใหม่ได้ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 4-8 สัปดาห์ แต่ถ้ามีความผิดปกติที่เปลือกตา เช่น บวมหรือแดง ให้รีบปรึกษาแพทย์ อย่านิ่งนอนใจนะคะ
อย่างไรก็ตาม ยังมีวิธีอื่นที่จะทำให้ดวงตาคมโต ขนตาแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย ด้วยการใช้เครื่องสำอาง อายแชโดว์ หรือมาสคาร่า อีกทั้งรับประทานอาหารที่มีธาตุสังกะสี ซึ่งมีในถั่ว งา ธัญพืช อาหารทะเล และไข่ กรดโฟลิก ซึ่งมีในตับ ผักใบเขียว และที่สำคัญคือ รักษาความสะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องใช้เครื่องสำอาง ควรล้างทำความสะอาดให้หมดจดทุกวันนะคะ เหล่านี้สามารถทำได้ง่ายและมีอันตรายน้อยกว่า