สาระดีดี ทักษะการเสริมกำลัง เทคนิคการเสริมกำลังใจ
ทักษะการเสริมกำลัง หมายถึง การให้กำลลังใจผู้เรียน เช่น การให้คำชมเชย หรือแสดงพฤติกรรมที่ปรารถนาดีแก้ผู้เรียน ประเภทของการเสริมกำลังใจ การเสริมกำลังใจที่เกิดจากภายใน การเสริมกำลังใจภายนอก การเสริมกำลังใจโดยให้นักเรียนมีสวนร่วมในการชมเชย เทคนิคการเสริมกำลังใจ เสริมกำลังใจในจังหวะที่เหมาะสม เสริมกำลังใจย้อนหลัง ไม่พูดเกินความจริง ไม่ใช้คำพูดที่จำกัดในวงแคบใช้วิธีเสริมกำลังใจหลายวิธีห้ามใช้ซ้ำๆ ไม่ควรเสริมกำลังใจบางประเภทบ่อยเกินไป ใช้วิธีเสริมกำลังใจต่างๆกันและในโอกาสต่างๆกัน การเสริมกำลังใจควรเป็นไปในทางบวกหรือลบ เสริมกำลังใจโดยใช้คำพูดให้เหมาะสมกับวัย การเสริมกำลังใจไม่ควรมาจากครูอย่างเดียวควรมาจากสิ่งแวดล้อมเช่นปรบมือ หาวิธีเสริมกำลังใจให้เหมาะสมกับลักษณะของผู้เรียน
สาระดีดี ทักษะและเทคนิคการใช้กระดานดำ
ทักษะและเทคนิคการใช้กระดานดำ ครูควรทำความสะอาดกระดานดำทุกครั้งที่สอน ในการเขียนกระดานดำควรแบ่งครึ่ง แบ่งเป็น 3 ส่วน ในการเขียนกระดานดำควรเขียนจากซ้ายมือไปขวามือ หัวข้อเรื่องควรเขียนไว้ตรงกลางกระดานดำ ขณะเขียนต้องยนห่างกระดานดำพอประมาณ แขนเหยียดตรง ควรทำมุมประมาณ 45 องศา ในการเขียนตัวหนังสือ ต้องให้เป็นเป็นเส้นตรงไม่คดเคี้ยว ถ้าต้องการอธิบายข้อความบนกระดานไม่ควรยืนบัง ถ้ามีข้อความสำคัญควรใช้ชอล์กขีดเส้นใต้ ควรใช้ชอล์กสีเมื่อต้องการเน้นข้อความ เขียนคำตอบลงนกระดานเพื่อเป็นการเสริมกำลังใจ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในการเขียนกระดานดำ ถ้าจะขึ้นเรื่องใหม่ควรลบของเก่าให้หมดเสียก่อน การลบกระดานต้องลบจากบนลงล่าง
สาระดีดี ทักษะการใช้อุปกรณ์การสอน
ทักษะการใช้อุปกรณ์การสอน อุปกรณ์การสอนจะเป็นจุดรวมความสนใจ สามารถเพิ่มความเป็นรูปธรรม และความเป็นจริงต่อการเรียนรู้ได้มากขึ้น ประโยชน์ของอุปกรณ์การสอน กระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดควมสนใจ ให้โอกาสผู้เรียนได้มีส่วนร่วม ทำให้ผู้เรียนเกิดแนวคิด ทำให้ผู้เรียนเกิดทักษะในการศึกษา ทำให้ผู้เรียนามารถจดจำเรื่องราวต่างๆ ได้แม่นยำ ช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์เดิมของผู้เรียน เทคนิคการใช้อุปกรณ์การสอนอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้อย่างคล่องแคล่ว แสดงอุปกรณ์ให้เห็นได้ชัดทั่วห้อง ควรหาที่ตั้ง วาง แขวนอุปกรณ์ที่มีขนาดใหญ่ ควรใช้ไม้ยาว ชี้แผนภูมิ แผนที่ กระดารดำ ควรนำอุปกรณ์มาวางเรียงกันไว้เป็นลำดับ ควรใช้เครื่องมือประกอบการใช้อุปกรณ์ให้เหมาะสม ควรมีการเตรียมผู้เรียนล่วงหน้าก่อนการใช้อุปกรณ์ พยายามเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ร่วมกิจกรรม ควรใช้อุปกรณ์ให้คุ้มค่ากับที่ได้เตรียมมา ควรคำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้อุปกรณ์บางชนิด
สาระดีดี เทคนิคการใช้คำถาม
เทคนิคการใช้คำถาม ถามด้วยความมั่นใจ ถามอย่างกลมกลืน ถามโดยใช้ภาษาที่พูดเข้าใจง่าย ให้นักเรียนมีโอกาสตอบได้หลายคน การเลือกถาม บางครั้งครูควรเลือกถามเพื่อจุดประสงค์ของครู การเสริมกำลังใจ หรือให้ผลย้อนกลับ ใช้คำถามหลายๆประเภทในการสอนแต่ละครั้ง การใช้กิรกยา ท่าทาง เสียงในการประกอบการถาม การใช้คำถามรุกหมายถึง การใช้คำถามต่อเนื่อง
สาระดีดี ทักษะการเร้าความสนใจ
ทักษะการเร้าความสนใจ การเร้าความสนใจสำคัญอย่างยิ่ง จะช่วยให้เด็กเกิดความสนใจในการเรียนไม่เบื่อหน่าย เช่น การเล่านิทาน การดูวีดีโอคลิป เป็นต้น เทคนิคการเร้าความสนใจ 1.การใช้สีหน้า ท่าทางประกอบการสอน เช่น การมอง ยิ้ม ส่ายหน้า โบกมือ ผงกศรีษะ ชี้ กวักมือ เป็นต้น 2.การใช้ถ้อยคำและน้ำเสียง ถ้อยคำที่ครูใช้และน้ำเสียงเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้ผู้เรียนสนใจเรียน ควรมีการเน้นหนักเบาในคำพูด 3.การเคลื่อนไหวของครู ครูควรเปลี่ยนจุดนั่งและจุดยืนของตน 4.การเน้นจุดสำคัญของเรื่องและการเว้นระยะการพูดหรืออธิบายครูควรฝึกเน้นคำพูด สำเนียง จังหวะ ทักษะการใช้คำถาม เวลาถามต้องถมอย่างมีจุดประสงค์ของการถาม ควรรู้ว่าคำถามมีหลายประเภท แต่ละประเภทใช้เพื่ออะไร ประเภทคำถาม มีอยู่ 3 ประเภท 1.คำถามที่ใช้ความคิดพื้นฐาน เนคำถามง่ายๆไม่ต้องใช้คำถามลึกซึ้งอะไรมากนัก 2.คำถามเพื่อการคิดค้น เช่น ถามความเข้าใจ การนำไปใช้ การเปรียบเทียบ เหตุผล สรุปหลักการ 3.คำถามที่ขยายความคิด 3.1การคาดคะเน เป็นคำถามเชิงสมมุติฐาน คาดการณ์ ซึ่งคำตอบย่อมเป็นไปได้หลายทาง 3.2การวางแผน คำถามที่ผู้เสนอแนวคิด วางโครงการหรือเสนอแผนงานใหม่ๆ 3.3การวิจารณ์ เป็นคำถมที่ผู้ตอบพิจารณาเรื่องราว ชี้ข้อดีข้อเสีย…
สาระดีดี เทคนิคการอธิบาย
เทคนิคการอธิบาย 1.เวลาที่ใช้ในการอธิบายไม่นานเกินควร 2.ภาษาที่ใช้ง่ายแก่การเข้าใจ 3.สื่อการสอน หรือตัวอย่างน่าสนใจ 4.ครอบครุมใจความสำคัญได้ครบถ้วน 5.การอธิบายเริ่มจากเรื่องที่เข้าใจง่ายไปหาเรื่องยาก 6.ท่าทางในการอธิบายน่าสนใจ 7.ใช้แนวความคิด 8.มีการสรุปผลการอธิบายด้วย
สาระดีดี ทักษะการใช้กิริยาวาจา ท่าทางในการสอน
ทักษะการใช้กิริยาวาจา ท่าทางในการสอน
สาระดีดี ทักษะและเทคนิควิธีการสอน EP01
ทักษะและเทคนิควิธีการสอน ทักษะและเทคนิคการสอน ความหมายคือความสามารถในการสอนอย่างมีประสิทธิภาพโดยสารถถ่ายทอดความรู้ต่างๆให้กับผู้เรียนได้ดี เทคนิคการสอน หมายถึง กลวิธีต่างๆที่ใช้เสริมกระบวนการสอนการสอนการแบ่งทักษะการสอนมี 18ทักษะด้วยกัน จะแบ่งเหลือ 9 ทักษะ
สาระสุขภาพ แผนที่แหล่งท่องเที่ยวประเทศไทย 77 จังหวัด PDF FILE
ข้อมูลท่องเที่ยว 76 จังหวัด ท่องเที่ยวไทย ท่องเที่ยวภาคกลาง ท่องเที่ยวภาคตะวันตก ท่องเที่ยวภาคตะวันออก ท่องเที่ยวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ท่องเที่ยวภาคเหนือ คู่มือนี้จัดทำโดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อแสดงแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจและเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่มากมายทั่วทุกภูมิภาค เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการหาข้อมูลของนักท่องเที่ยว ททท.จึงได้จัดรวบรวมข้อมูลของสถานที่ท่องเที่ยวในแต่ละจังหวัด ทั้งหมด 77 จังหวัด amnatcharoen angthong ayutthaya bangkok bungkan buriram chachoengsao chainat chaiyaphum chanthaburi chiangmai chiangrai chonburi chumphon kalasin kamphaengphet kanchanaburi khonkaen krabi lampang loei lopburi lumphun maehongson mahasarakham mukdahan nakhonnayok nakhonpathom nakhonphanom nakhonratchasima nakhonsawan nakhonsithammarat nan narathiwat nongbualamphu nongkhai nonthaburi…
ข่าวการศึกษา ศธ.ลุยจัดการศึกษาตามรัฐธรรมนูญใหม่ทันที
ศธ.ลุยจัดการศึกษาตามรัฐธรรมนูญใหม่ทันที
การแพทย์ แผลในปากอาจไม่ใช่ร้อนใน แต่เป็น “มะเร็งช่องปาก”
นอกจากมะเร็งที่เราได้ยินกันบ่อยๆ อย่างมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งตับ และมะเร็งปอด เชื่อว่าหลายคนน่าจะไม่ค่อยคุ้นหูกับ “มะเร็งช่องปาก” และอาจไม่ทราบด้วยซ้ำว่าเป็นโรคนี้ได้ยังไง อะไรคือสาเหตุ และอาการเป็นอย่างไร Sanook! Health จึงนำข้อมูลมาฝากกันค่ะ มะเร็งช่องปาก ติด 1 ใน 10 โรคมะเร็งที่คร่าชีวิตคน มะเร็งช่องปาก เป็นส่วนหนึ่งของโรคมะเร็งในกลุ่มโรคมะเร็งศีรษะและลำคอ มีทั้งชนิด สะความัส (Squamous cell carcinoma) หรือ SCC และชนิดอะดีโนคาร์ซิโนมา (Adenocarci noma) หรือ มะเร็งต่อมน้ำเหลือง แต่ชนิดหลังพบได้น้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นชนิด SCC มะเร็งช่องปาก พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป มะเร็งช่องปาก มีสาเหตุจากอะไร? เหมือนโรคมะเร็งอื่นๆ ที่ไม่สามารถหาสาเหตุที่แน่ชัดได้ แต่จะมีปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงให้เป็นโรคมะเร็งช่องปากมากขึ้น ดื่มแอลกอฮอลล์ สูบบุหรี่ เคี้ยวหมากพลู เพราะมีสารก่อมะเร็งเจือปนอยู่ มีแผลที่เกิดจากการระคายเคืองเยื่อเมือกบุช่องปาก ฟันแหลมคม/บิ่น ขูดจนผนังปากเป็นแผล และไม่รับการรักษาจนเป็นแผลมีหนอง…
ข่าวเด็ดๆ กรมอุตุฯ เตือน ฉ.16 ภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมาก
กรมอุตุฯ เผย ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช มีฝนตกหนัก ทะเลคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขณะ กทม. มีฝนร้อยละ 40 ของพื้นที่
ข่าวประชาสัมพันธ์ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐
วันที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๐ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร พุทธศักราช ๒๕๖๐ ดาวน์โหลดรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/040/1.PDF ที่มา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา วันที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๐
ใบงาน ข้อสอบ ภาษา อังกฤษ ป.1-ป.6
กิจวัตรประจำวันวัยเด็กเราคงเคยผ่านกันมาไม่ว่าจะเป็นการตื่นสาย ต้องรีบอาบน้ำแปรงฟันไปโรงเรียน เลิกเรียนกลับบ้าน ทำการบ้านที่ครูให้มา แม้การใส่เสื้อผ้าจนถึงการเข้านอน ซึ่งชีวิตในวัยเด็ก เราจะเจอแบบนี้เรื่อยไปจนกระทั่งเติบใหญ่ แม้แต่คุณพ่อคุณแม่เองก็ต้องเจอสถานการณ์แบบนี้ทุกวัน การสนทนากันระหว่างแม่กับลูก หรือการสนทนากับลูกน้อย (Talk to child)
บทความทางการศึกษา รูปแบบการเรียนที่ใช้ปัญหาเป็นหลัก ( Problem-based Learning)
การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก (Problem-based Learning) ความหมายของการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก ในการศึกษาความหมายของการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก (Problem-based Learning) ได้มีนักวิชาการหลายท่านได้ให้ความหมายไว้ดังนี้ การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก (Problem-based Learning) หมายถึง การเรียน การสอนที่เน้นให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยใช้ปัญหาเป็นเครื่องกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความต้องการที่จะศึกษาค้นคว้าหาความรู้ โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง เพื่อให้ผู้เรียนมีการตัดสินใจที่ดีมีความคิดอย่างมีวิจารณญาณ สามารถเรียนรู้การทำงานเป็นทีม ใฝ่รู้ และมีการเรียนรู้อย่าง ต่อเนื่องตลอดชีวิต เพื่อให้สามารถก้าวทันกับสภาพการเปลี่ยนแปลงของโลก วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีการเรียนรู้ (Duch, Groh, & Allen, 2001). การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก (Problem-based Learning) หมายถึง วิธีการเรียนรู้ บนหลักการของการใช้ปัญหาเป็นจุดเริ่มต้นในการเชื่อมโยงความรู้ที่มีอยู่เดิม ให้ผสมผสานกับข้อมูลใหม่ แล้วประมวลเป็นกับความรู้ใหม่ (Barrows, 1982) การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก (Problem-based Learning) เป็นวิธีการเรียนรู้ที่เป็น ผลจากการแก้ปัญหา โดยใช้ความรู้ที่ผู้เรียนทำการสืบค้นเอง (Neufeld & Barrow, 1974; Schmidt, 1993; Barrows, 2000 อ้างถึงใน นภา หลิมรัตน์,…
Problem-based Learning : PBL PBL คืออะไร – Active Learning
การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน? คือ การเรียนรู้ที่ใช้ปัญหาเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความต้องการที่จะใฝ่หาความรู้เพื่อแก้ปัญหา โดยเน้นผู้เรียนเป็นผู้ตัดสินใจในสิ่งที่ต้องการแสวงหาความรู้ และรู้จักการทำงานร่วมกันเป็นทีมภายในกลุ่มผู้เรียน โดยผู้สอนมีส่วนร่วมน้อยที่สุด ซึ่งการเรียนรู้จากปัญหาอาจเป็นสถานการณ์จริง ขั้นตอนการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เป็นกระบวนการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบและมีหลักการเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานมี 7 ขั้นตอน ดังนี้ Step 1: Clarifying unfamiliar terms กลุ่มผู้เรียนทำความเข้าใจคำศัพท์ ข้อความที่ปรากฎอยู่ในปัญหาให้ชัดเจน โดยอาศัยความรู้พื้นฐานของสมาชิกในกลุ่มหรือการศึกษาค้นคว้าจากเอกสารตำราหรือสื่ออื่นๆ Step 2: Problem definition กลุ่มผู้เรียนระบุปัญหาหรือข้อมูลสำคัญร่วมกัน โดยทุกคนในกลุ่มเข้าใจปัญหา เหตุการณ์ หรือปรากฎการณ์ใดที่กล่าวถึงในปัญหานั้น Step 3: Brainstorm กลุ่มผู้เรียนระดมสมองวิเคราะห์ปัญหาต่างๆ และหาเหตุผลมาอธิบาย โดยอาศัยความรู้เดิมของสมาชิกกลุ่ม เป็นการช่วยกันคิดอย่างมีเหตุมีผล สรุปรวบรวมความรู้และแนวคิดของกลุ่มเกี่ยวกับกลไกการเกิดปัญหา เพื่อนำไปสู่การสร้างสมมติฐานที่สมเหตุสมผลเพื่อใช้แก้ปัญหานั้น Step 4: Analyzing the problem กลุ่มผู้เรียนอธิบายและตั้งสมมติฐานที่เชื่อมโยงกันกับปัญหาตามที่ได้ระดมสมองกัน แล้วนำผลการวิเคราะห์มาจัดลำดับความสำคัญ โดยใช้พื้นฐานความรู้เดิมของผู้เรียน การแสดงความคิดอย่างมีเหตุผล Step 5: Fomulating learning issues กลุ่มผู้เรียนกำหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้ เพื่อค้นหาข้อมูลที่จะอธิบายผลการวิเคราะห์ที่ตั้งไว้ ผู้เรียนสามารถบอกได้ว่าความรู้ส่วนใดรู้แล้ว ส่วนใดต้องกลับไปทบทวน…
ข่าวการศึกษา การจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (PROBLEM-BASED LEARNING)
การจัดการเรียนรู้ของครูที่เป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning มีเทคนิคการสอน ที่หลากหลายเพื่อให้เด็กเกิดทักษะต่างๆ ที่จำเป็นในการดำรงชีวิต เน้นให้เด็กได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริงและเรียนรู้จากสถานการณ์ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตประจำวันเพื่อให้ได้ฝึกทักษะการคิด โดยมีการวางเงื่อนไขและกติกาในการร่วมกิจกรรม ซึ่งกิจกรรมการเรียนรู้ที่จัดขึ้นเน้นให้ผู้เรียนได้ฝึกกระบวนการทำงานกลุ่ม การรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ตลอดจนทักษะการสื่อสารที่ถือว่ามีความจำเป็นและสำคัญต่อการดำรงชีวิตอย่างมาก โดยเด็กจะเสนอสิ่งที่ตนเองอยากเรียนรู้ขึ้นมาและครูมีบทบาทเป็นผู้ชี้แนะ การจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning) เป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ซึ่งในการจัดทำคู่มือจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานครั้งนี้ ขอนำเสนอสาระสำคัญเกี่ยวกับแนวคิดพื้นฐาน จุดมุ่งหมายของการจัดการเรียนรู้ ลักษณะของปัญหาในการจัดการเรียนรู้ การเตรียมตัวของครูก่อนการจัดการเรียนรู้ ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ การประเมินผลการเรียนรู้ และบทบาทของครูในการจัดการเรียนรู้ 1. แนวคิดพื้นฐานของการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน การจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานเป็นจัดการเรียนรู้ที่เน้นในสิ่งที่เด็กอยากเรียนรู้ โดยสิ่งที่อยากเรียนรู้ดังกล่าวจะต้องเริ่มมาจากปัญหาที่เด็กสนใจหรือพบในชีวิตประจำวันที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับบทเรียน อาจเป็นปัญหาของตนเองหรือปัญหาของกลุ่ม ซึ่งครูจะต้องมีการปรับเปลี่ยนแผนการจัดการเรียนรู้ตามความสนใจของเด็กตามความเหมาะสม จากนั้นครูและเด็กร่วมกันคิดกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกับปัญหานั้น โดยปัญหาที่จะนำมาใช้ในการจัดการเรียนรู้บางครั้งอาจเป็นปัญหาของสังคมที่ครูเป็นผู้กระตุ้นให้เด็กคิดจากสถานการณ์ ข่าว เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น จะเน้นที่กระบวนการเรียนรู้ของเด็ก เด็กต้องเรียนรู้จากการเรียน (learning to learn) เน้นปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนในกลุ่ม การปฏิบัติและการเรียนรู้ร่วมกัน (Collaborative Learning) นำไปสู่การค้นคว้าหาคำตอบหรือสร้างความรู้ใหม่บนฐานความรู้เดิมที่ผู้เรียนมีมาก่อนหน้านี้ 2. จุดมุ่งหมายของการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน รูปแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานมีจุดมุ่งหมายเพื่อฝึกทักษะการคิดแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผลและเป็นระบบให้แก่นักเรียนโดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการคิดแก้ปัญหา การคิดสร้างสรรค์ คิดวิจารณญาณ การสืบค้นและรวบรวมข้อมูล กระบวนการกลุ่ม การบันทึกและการอภิปราย…
ข่าวการศึกษา ก.พ.อ.เห็นชอบ 9ศาสตราจารย์…
วันนี้( 3 เม.ย.) ดร.สุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ก.พ.อ.) เมื่อเร็ว ๆนี้ มีมติเห็นชอบให้นำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ให้ดำรงตำแหน่ง ศาสตราจารย์ (ศ.)จำนวน 9 ราย ได้แก่ รองศาสตราจารย์ (รศ.) โกวิทย์ พวงงาม สาขาวิชาการการพัฒนาชุมชนการพัฒนาท้องถิ่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) รศ.วราภรณ์ ภูตะลุน สาขาวิชาเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น(มข.) รศ.ชวลิต ชาลีรักษ์ตระกูล สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา มธ. รศ.กิติพัฒน์ นนทปัทมะดุลย์ สาขาวิชาสังคมสงเคราะห์ทางการแพทย์ มธ. รศ.สุรพล เวียงนนท์ สาขาวิชากุมารเวชศาสตร์ มข. รศ.ประภัสสร์ เทพชาตรี สาขาวิชาการระหว่างประเทศ มธ. รศ.สุชาติ ลิ่มกตัญญูสาขาวิชาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รศ.ญาณวิทย์ กุญแจทอง สาขาวิชาภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และ รศ.นงนุช…
ข่าวการศึกษา คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 19/2560 เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ
คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 19/2560 เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/E/096/14.PDF
Problem-based Learning : PBL สรุป ความหมาย ของ PBL
สรุป การเรียนที่ใช้ปัญหาเป็นหลักจะช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการเรียน เนื่องจากผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ มากกว่าการรับฟังเนื้อหาจากครูผู้สอนเพียงฝ่ายเดียว สิ่งสำคัญก็คือสถานการณ์ปัญหาหลักหรือกรณีศึกษาที่นำมาใช้เป็นแรงกระตุ้นและผลักดันให้ผู้เรียนนำความรู้ หรือประสบการณ์ที่มีอยู่เดิมมาใช้แก้ปัญหา ดังนั้นลักษณะของปัญหาต้องมีความน่าสนใจ ท้าทายและน่าค้นหาคำตอบ รวมทั้งควรเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้เรียน เพื่อผู้เรียนจะได้แสดงความสามารถในการแก้ปัญหาโดยการระบุประเด็น โครงสร้าง และเสนอแนวทางในการแก้ปัญหาด้วยตนเอง การเรียนที่ใช้ปัญหาเป็นหลักทำให้ผู้เรียนได้รับความรู้ในเนื้อหาวิชาที่เป็นการบูรณาการ และสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้เป็นเครื่องมือในการจัดการปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหา การใช้เหตุผลในการคิดวิเคราะห์ และตัดสินใจ อีกทั้งยังช่วยพัฒนาทักษะในการเรียนรู้ด้วยตนเอง เพราะการที่ผู้เรียนได้เรียนรู้วิธีการเรียน โดยการกำหนดจุดมุ่งหมายการเรียน รู้วิธีการแสวงหาความรู้จากแหล่งความรู้ต่างๆ รวบรวมความรู้และนำมาสรุปเป็นความรู้ใหม่ เป็นลักษณะของการเรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นทักษะการเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต การให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการอภิปราย มีวิธีการแสวงหาความรู้และไตร่ตรองทรัพยากรการเรียน ซึ่งเป็นกระบวนการที่มีความหมายสำคัญ ช่วยให้ผู้เรียนเป็นผู้เรียนรู้ด้วยตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีม ซึ่งการเรียนเป็นกลุ่มย่อยทำให้ผู้เรียนได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนแนวคิดกับผู้อื่นทำให้มีความรู้กว้างขวางมากขึ้น นับเป็นการพัฒนาทักษะทางสังคมให้เกิดกับผู้เรียน อย่างไรก็ตาม การเรียนที่ใช้ปัญหาเป็นหลัก มีข้อจำกัด คือ เป็นการเรียนที่เหมาะสำหรับสายวิชาชีพซึ่งเป็นวิทยาศาสตร์ประยุกต์ ไม่สามารถนำมาใช้ได้กับทุกรายวิชา และในการนำมาใช้ต้องมีการวางแผนและเตรียมการเป็นอย่างดี ผู้สอนจะต้องมีทักษะในการเป็นผู้สอนประจำกลุ่ม ผู้เรียนจะต้องมีความรับผิดชอบต่อการเรียนรู้ของตนเองและให้ความร่วมมือในการเรียนร่วมกัน เป็นห้องเรียนที่เปิดกว้าง และมีแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนศึกษาได้อย่างอิสระ
Problem-based Learning : PBL ความหมาย ของ PBL
ความหมาย ของ PBL เมื่อดูจากรูปคำศัพท์ Problem – based Learning คำว่า Problem แปลว่า ปัญหา based แปลว่า ฐาน พื้นฐาน Learning แปลว่า การเรียนรู้ Problem – based Learning หรือ PBL ก็คือ วิธีการเรียนรู้วิธีหนึ่ง ที่มีรูปแบบการเรียนรู้ โดยการนำปัญหามาเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-based learning หรือ PBL) เป็นรูปแบบการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นจากแนวคิดตามทฤษฎีการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์นิยม (Constructivism) โดยให้ผู้เรียนสร้างความรู้ใหม่ จากการใช้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในโลก เป็นบริบท (context) ของการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดทักษะในการคิดวิเคราะห์และคิดแก้ปัญหา รวมทั้งได้ความรู้ตามศาสตร์ในสาขาวิชาที่ตนศึกษา ไปพร้อมกันด้วย การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานจึงเป็นผลมาจากกระบวนการทำงานที่ต้องอาศัยความเข้าใจและการแก้ไขปัญหาเป็นหลัก ถ้ามองในแง่ของ ยุทธศาสตร์การสอน PBL เป็นเทคนิคการสอน ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง เผชิญหน้ากับปัญหาด้วยตนเอง จะทำให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะในการคิดหลายรูปแบบ เช่น การคิดวิจารณญาณ คิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดสร้างสรรค์ ฯลฯ ลักษณะทั่วไปของ การเรียนรู้แบบ PBL รูปแบบของการจัดการเรียนรู้แบบ การใช้ปัญหาเป็นฐาน หรือ PBL พอจะกล่าวได้ดังนี้ ให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้อย่างแท้จริง(student-centered learning) จัดกลุ่มผู้เรียนให้มีขนาดเล็ก (ประมาณ 3– 5 คน) ครูทำหน้าที่ เป็นผู้อำนวยความสะดวก(facilitator) หรือผู้ให้คำแนะนำ (guide) 4.ใช้ปัญหาเป็นตัวกระตุ้น (สิ่งเร้า)ให้เกิดการเรียนรู้ ลักษณะของปัญหาที่นำมาใช้ ต้องมีลักษณะคลุมเครือไม่ชัดเจน มีวิธีแก้ไขปัญหาได้อย่างหลากหลาย อาจมีคำตอบได้หลายคำตอบ ผู้เรียนเป็นผู้แก้ปัญหาโดยการแสวงหาข้อมูลใหม่ ๆ ด้วยตนเอง(self-directed learning) 7.การประเมินผล ใช้การประเมินผลจากสถานการณ์จริง(authentic assessment) ดูจากความสามารถในการปฏิบัติ ของผู้เรียน การเรียนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เป็นกระบวนการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้เรียนตั้งสมมติฐาน สาเหตุและกลไกของการเกิดปัญหานั้น ค้นคว้าความรู้พื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับปัญหา เพื่อจะนำไปสู่การแก้ปัญหาต่อไป โดยผู้เรียนอาจจะไม่มีความรู้ในเรื่องนั้นๆ มาก่อน แต่อาจใช้ความรู้ที่ผู้เรียนมีอยู่เดิมหรือเคยเรียนมา วิธีการเรียนรู้ตามแนวทางที่มีลักษณะที่สำคัญ คือ…
ข่าวการศึกษา สกอ. ส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนความเป็นพลเมือง
ดร.สุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การศึกษาเพื่อความเป็นพลเมืองระดับอุดมศึกษา และมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้แทนสถาบันอุดมศึกษาที่ผลงานผ่านการคัดเลือกให้นำเสนอ และอภิปราย Best Practices ณ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2560 การประชุมในครั้งนี้มี ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง Civic Education in Germany โดย นายเพเทอร์ พรือเกล เอกอัครราชทูตสหพันธ์รัฐเยอรมนี และ เรื่อง Civic education by Civil society: the work of the Friedrich Naumann Foundation in Thailand โดย นายซิกฟรีด แฮซอล ผู้อำนวยการมูลนิธิฟรีดริช เนามัน เลขาธิการ กกอ. กล่าวว่า จากกรอบแนวคิดการพัฒนาประเทศในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11…
ข่าวการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ จัดประชุมชี้แจงเตรียมการจัดตั้งสำนักงานศึกษาธิการภาค และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด
นายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน การประชุมชี้แจงเตรียมการจัดตั้งสำนักงานศึกษาธิการภาค และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับกรอบแนวทางโครงสร้าง การดำเนินงานการปฏิบัติงานในเชิงพื้นที่ และการบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายตามยุทธศาสตร์ ของกระทรวงศึกษาธิการ ในวันที่ 3 เมษายน 2560 ณ โรงแรมปรินซ์ พาเลซ กรุงเทพมหานคร โดยได้เชิญผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ ศึกษาธิการภาค รองศึกษาธิการภาค ศึกษาธิการจังหวัด ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา/มัธยมศึกษา ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน. ผู้อำนวยการ สช. จังหวัด และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง จำนวน 510 คน เข้าร่วมประชุม เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างบทบาทอำนาจ หน้าที่ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน สำหรับการกำหนดยุทธศาสตร์บทบาทการพัฒนาและการศึกษาให้เชื่อมโยงสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ตลอดจนประสานงานระหว่างส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค การกำกับติดตามประเมินผลตามนโยบายและยุทธศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงการส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษา การแก้ไขปัญหาการบริหารงานบุคคลของกระทรวงศึกษาธิการ สามารถนำไปใช้ขับเคลื่อนการดำเนินงานในพื้นที่ (Area Based) ได้อย่างมากมีประสิทธิภาพเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม อิชยา/สรุป อธิชนม์,ธนภัทร,ธเนศ/ภาพ กลุ่มสารนิเทศ สอ.สป
ข่าวการศึกษา รมว.ศธ.บรรยายพิเศษ Growth Mindset กับ การปฏิรูปการศึกษา
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดการประชุม “กล้าก้าว (Growth Mindset) : เติบโตด้วยศรัทธา เติบกล้าด้วยแรงใจ” และบรรยายทางวิชาการในหัวข้อ “Growth Mindset กับการปฏิรูปการศึกษา” จัดโดยสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ศูนย์จิตวิทยาการศึกษา มูลนิธิยุวสถิรคุณ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 เมษายน 2560 ณ โรงแรมแมนดาริน (สามย่าน) กรุงเทพฯ โดยมีนายบุญรักษ์ ยอดเพชร รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ประธานคณะกรรมการกำกับทิศทางโครงการวิจัยปฏิบัติการโรงเรียนพัฒนาคุณภาพต่อเนื่อง (School Quality Improvement Program : sQip), นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน, รศ.ดร. ปัทมาวดี โพชนุกูล รองผู้อำนวยการด้านการวิจัยเชิงยุทธศาสตร์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ตลอดจนผู้อำนวยการโรงเรียน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ศึกษาธิการจังหวัด เครือข่ายสนับสนุนทางวิชาการ…
ข้อสอบ แนวข้อสอบ วิชา ประวัติศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
คำบอกช่วงเวลาในข้อใด มีระยะเวลา 5. “สมัยพลเอกเปรม ติณสูลานนท์” นานที่สุด เป็นรูปแบบการบอกเวลาลักษณะใด ก. คริสต์ศักราช ก. บอกตามรัชกาล ข. ทศวรรษ ข. บอกตามราชวงศ์ ค. ศตวรรษ ค. บอกตามสมัยรัฐบาล ง. สหัสวรรษ ง. บอกตามสมัยราชธานี “วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2550” 6. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของการลำดับ เป็นการบอกเวลาแบบใด เหตุการณ์ ก. แบบจันทรคติ ก. ทำให้เข้าใจง่าย ข. แบบสุริยคติ ข. ทำให้ผู้คนยกย่อง ค. แบบปีนักษัตร ค. ทำให้เรื่องราวชัดเจน ง. แบบบอกตามรัชกาล ง. ทำให้ไม่สับสนเรื่องราว…
ข้อสอบ แนวข้อสอบ วิชา คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
. ตัวเลข 3 ข้อใดมีค่าเท่ากับ 300,000 5. ตัวเลข 8 ในข้อใดมีค่ามากที่สุด ก. 2,130,455 ข. 1,360,120 ก. 10,463,821 ค. 1,113,640 ค. 1,042,300 ข. 21,682,020 2,564,300 เขียนในรูปกระจายได้ตามข้อใด ค. 18,362,500 ก. 2,000,000 + 500,000 + 60,000 + ง. 46,558,000 4,000 + 30 6. 1,263,572 … 2,543,677 3,150,210 1. คณิตศาสตร์ หน่วย 1 จำนวนนับ 2. คณิตศาสตร์ หน่วย 2 ตัวประกอบของจำนวนนับ 3….
ข้อสอบ แนวข้อสอบ วิชา การงานอาชีพ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
การจัดห้องต่างๆ ภายในบ้าน ควรคำนึงถึง 5. คำว่า “บริเวณบ้าน” หมายถึงสิ่งเหล่านี้ สิ่งใดมากที่สุด ยกเว้นข้อใด ก. ความสะอาด ก. สนามหญ้า ข. ระเบียงบ้าน ข. ความทันสมัย ค. ทางระบายน้ำ ง. ทางเดิน ค. ความสะดวกสบาย 6. การจัดตกแต่งบริเวณบ้าน ควรคำนึงถึงสิ่ง ง. ความสวยงาม ต่อไปนี้ ยกเว้นข้อใด บริเวณระเบียงบ้านไม่ควรปลูกไม้ยืนต้น ก. รูปแบบบ้าน เพราะอะไร ข. พื้นที่ของบ้าน ก. อาจทำให้ระเบียงบ้านพังลงมาได้ ค. จำนวนคนในบ้าน ข. ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยลดน้อยลง ง. ลักษณะของต้นไม้ในบ้าน ค. ต้นไม้จะไม่ออกดอกและผล 7. การทำความสะอาดพื้นบ้านทุกประเภท 1. การงานอาชีพ หน่วยที่ 1 บ้านและชีวิตความเป็นอยู่ 2. รงานอาชีพ…
บทความน่าอ่าน การวัดขนาดข้อมูล
การวัดขนาดข้อมูล ในการพิจารณาว่าข้อมูลใดมีขนาดมากน้อยเพียงไร เรามีหน่วยในการวัดขนาดของข้อมูล ดังต่อไปนี้ 8 Bit=1 Byte 1,024 Byte=1 KB (กิโลไบต์) 1,024 KB=1 MB (เมกกะไบต์) 1,024 MB=1 GB (กิกะไบต์) 1,024 GB=1TB (เทระไบต์)
IT FOR KRU ความจุข้อมูลหรือขนาดของข้อมูล ที่ใช้เรียกในระบบคอมพิวเตอร์
หน่วยที่ใช้การวัดขนาดของข้อมูลโดยทั่วไป มีดังนี้ – บิต (ฺBit) เป็นหน่วยวัดที่ใช้่ในการบอกขนาดของข้อมูลที่มีขนาดเล็กที่สุด โดยแต่ละบิตถูกแสดงด้วย ตัวเลขไบนารี่ (ฺBinary Digits) คือ “0” หรือ “1” ซึ่งเป็นตัวเลขที่บ่งบอกถึงสถานนะการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ -ไบต์ (ฺฺByte) เป็นหน่วยวัดพื้นฐานที่สำคัญสำหรับใช้ในการบอกขนาดของข้อมูลหรือไฟล์ที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป โดย 1 ไบต์ จะมี 8 บิต ซึ่งสามารถใช้แทนตัวอักษรใดๆ 1 ตัว โดยตัวอักษรนั้นอาจจะเป็นตัวเลข, พยัญชนะ หรือสัญลักษณ์ต่างๆ – กิโลไลต์ (Kilobyte ตัวย่อคือ KB) จะมีค่าเท่ากับ 1,024 ไบต์ หรือประมาณ 1,000 ไบต์ (10 ยกกำลัง 10) ซึ่งเทียบเท่ากับตัวอักษรประมาณ 1,000 ตัวหรือประมาณ 1 หน้ากระดาษโดยประมาณ – เมกกะไบต์ (Megabyte ตัวย่อคือ MB) จะมีค่าเท่ากับ…