ผะหญาสุภาษิต

 

ภาษาอีสาน   คบคนให้เบิ่งหน้า   ขาวงามงามอย่าฟ้าวเชื่อ บาดเมื่อขมเคียดแค้น   สิอุกเอ้าอั่งทรวง

 

ภาษากลาง     คบคนให้ดูหน้า   เห็นหน้าขาวงามก็อย่าไว้วางใจ เวลาเมื่อโกรธแค้น แล้วจะรู้สึกเศร้า

 

เสียใจเกิดความเสียหายขึ้นมาได้

 

ความหมาย     การที่จะคบหาสมาคมกับผู้ใดให้ดูให้ละเอียดรอบคอบ อย่าหลงเชื่อเพียงแค่เห็นว่ามีรูปร่าง

 

หน้าตาสะสวย หรือท่าทางดี น่าเชื่อถือเท่านั้นต้องศึกษาภูมิหลังความเป็นมาสังเกต

 

พฤติกรรมให้ดีก่อนจะปักใจเชื่อหรือคบหาอย่างสนิทสนม เพื่อป้องกันเอาไว้ก่อน หากคบหา

 

โดยไม่รอบคอบแล้วเกิดอะไรขึ้นจะทำให้เสียใจหรือได้รับความเสียหายจนแก้ไขอะไรไมได้ก็

 

คือกันไว้ดีกว่าแก้นั่นเอง

 

ภาษาอีสาน     คันได้กินปลาแล้ว   อย่าลืมเอาแหตาก   ห่าว่าแหขาดแล้ว   ปลาสิได้ฮ่อมได๋

 

ภาษากลาง     ถ้าหากว่าได้กินปลาแล้ว อย่าลืมเอาแหตาก   ถ้าแหขาดไม่แหแล้ว จะได้ปลาจากที่ใดมากินอีก

 

ความหมาย     สอนให้เป็นคนที่รู้จักบุญคุณของคนที่ทำประโยชน์ให้ ไม่ใช่ได้หน้าแล้วลืมหลัง ให้เป็นคนรอบคอบรู้ว่า

 

อะไรได้มาอย่างไร ไม่ให้ลืมอะไรง่ายๆ รู้จักเก็บเครื่องมือเครื่องใช้ได้ดี หากเก็บไม่ดีแล้วเกิดสูญหายหรือ

 

ชำรุดแล้วจะลำบากไม่มีอะไรจะนำมาใช้อีก เหมือนแหหลังจากทอดหาปลาเสร็จแล้วก็ให้ล้างตากเก็บให้

 

เรียบร้อยเผื่อใช้ในการหาปลาในคราวต่อไป

 

ภาษาอีสาน     คันว่าควมคนเว้า   ขมในอย่าฟ้าวจ่ม   ลางเถื่อขมขี้เพี้ย   ภายหน้าหากสิดี   อย่าฟ้าวติเตียนเว้า

 

ผักกะเดาว่าขมขื่น   บาดได้กินลาบก้อย   สิหลงย้องว่าดีได๋

 

ภาษากลาง       ถ้าหากว่าได้ยินคำพูดที่ตำหนิติเตียน หรือคำที่ไม่ไพเราะ คำพูดที่ได้ยินแล้วไม่พอใจเรานั้นอย่าเพิ่งโกรธ

 

บางทีคำพูดนั่นอาจจะเป็นความจริงให้ข้อคิดที่สามารถนำไปใช้ได้ในภายหน้า   อย่าได้ตำหนิว่าสะเดามีรส

 

ขมแต่ถ้าได้นำมากินกับลาบก้อยเนื้ออาจจะอร่อยรสชาติดีก็ได้

 

ความหมาย       ให้เป็นคนรู้จักพินิจพิจารณาให้รอบคอบอย่าเป็นคนที่ตัดสิน หรือสรุปอะไรง่ายๆ อาทิ คำพูดที่ไม่ถูกใจเรา

 

อาจจะเป็นคำตำหนิติเตียงจากเพื่อนบ้าน ผู้หลักผู้ใหญ่ให้นำมาคิดไตร่ตรองมองในแง่ดีอย่างมีเหตุมีผล

 

ก่อนอย่าเพิ่งโกรธหรือตำหนิไม่ยอมนำมาคิด ซึ่งคำพูดนั้นอาจจะเป็นคติข้อคิด สามารถจะให้สติของเรา

 

ได้ในภายหน้าก็ได้ เหมือนกับยอดหรือดอกสะเดาแม้จะมีรสขมแต่พอได้กินกับลาบก้อนเนื้อก็มีรสอร่อย

 

ได้   เหมือนคำพูดที่ทำให้เราไม่พอใจแต่ถ้าไปตรงกับเหตุการณ์แล้วจะคิดได้ภายหลังก็เป็นได้ อย่าเอา

 

ความชอบหรือพอใจเราตัดสินสิ่งใดๆเพียงแค่ผิวเผินโดยไม่ได้คิดอย่างมีเหตุผลอย่างถี่ถ้วน

 

ภาษาอีสาน         อันว่าเงินคำแก้ว   แนวหายากพานพบ   ลางเถื่อมีในมือ   กะเป่าแปนปานล้าง

 

อันว่าเงินคำแก้ว     มีหลายแต่ผู้หมั่น     ผู้ได๋ขี้คร้าน   หาได้กะบ่หมาน

 

ภาษากลาง         อันว่าเงินทอง เป็นสิ่งที่หายากลำบากไม่พานพบได้ง่ายๆ     บางครั้งมีอยู่เต็มมือแท้ๆ ก็หมดหดหายไป

 

ไม่มีเหลือเหมือนล้างด้วยน้ำ       อันว่าเงินทองนี้จะมีมากเฉพาะผู้ที่ขยันรู้จักเก็บรู้จักหา

 

ใครที่เกียจคร้าน มีแต่ใช้จ่ายไม่ขยันหา   แม้จะมีมากมายหามาได้เท่าไรหรือได้รับทรัพย์มรดกมาจากพ่อ

 

แม่มีแต่ใช้ไม่รู้จักหาก็จะหมดไปในที่สุด

 

ความหมาย         สอนให้เป็นคนที่มีความขยันหมั่นเพียรในการหาทรัพย์สินเงินทองเพราะเงินทองนั่นเป็นของที่หาได้ยาก

 

อย่าเป็นคนดีแต่จ่าย   ต้องรู้จักหาทรัพย์เมื่อได้แล้วก็ต้องรู้จักวางแผนใช้จ่ายว่าสิ่งใดควรจ่ายสิ่งใดไม่ควร

 

ใช้จ่าย รู้ว่าอะไรจำเป็นก่อนหลังมากน้อย อะไรควรเก็บออมเอาไว้ใชในยามฉุกเฉินเจ็บป่วยหรือเมื่อแก่

 

ชราไม่มีแรงหา ไม่ใช่มีเท่าไรใช้จ่ายเกลี้ยงไม่คำนึงถึงระโยชน์ความจำเป็น ก็คืออย่าใช้จ่ายตามกระแส

 

นิยม และสำคัญที่สุดคือต้องเป็นคนที่ขยันหมั่นเพียรจึงจะมีเงินมีทองได้

 

ภาษาอีสาน     กกบ่แหน่น   ปลายดกหนากะตามส่าง   ฮากบ่หยั่งฝังเลิ๊กพื้น   บ่มีมั่นอยู่ได้โดนดอกนา

 

ภาษากลาง       ลำต้นไม้แน่น   ปลายแม้จะดกหนาก็ช่าง   รากไม่หยั่งฝังลึกลงไปในดิน   ไม่มีวันที่จะยึดยืนต้นได้อย่าง

 

คงทน

 

ความหมาย       ชีวิตของคนเปรียบเสมือนกับต้นไม้ แม้ว่าจะมีใบดกหนากิ่งก้านสาขาสดสวยงาม หากไม่มีรากช่วยยึด

 

เกาะลงไปในดินความแข็งแรงก็ไม่มี   คนจะมีความแข็งแรง มั่นคงก็ต้อง มีความเป็นอยู่ที่ดีนั่นก็ต้องมีคนให้ความช่วยเหลือ

 

หรือมีอะไรให้เป็นข้องคิดยึดเหนี่ยวเอาไว้

 

คันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า คันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มสัปทน อย่าได้ลืมคนจนผู้แห่นำตีนซ้าง ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้วก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง

 

ใจประสงค์สร้าง กลางดงกะว่าท่ง ใจขี้คร้าน กลางบ้านกะว่าดง ถ้าใจสู้ (ขยัน) อยู่กลางป่าดงก็เหมือนกลางทุ่งถ้าเกียจคร้านแม้อยู่กลางหมู่บ้านก็เหมือนในกลางป่า

 

ใจบ่โสดาด้วยเว้าแม่นกะเป็นผิด ใจบ่โสดาดอมเว้าดีกะเป็นฮ้าย แม้นไม่สบอารมณแล้วจะพูดอย่างไรก็ไม่มีทางถูกใจได้

 

ตีเจ็บแล้วแสนสิออยกะปานด่า แม่นว่าเว้าจ้อยจ้อยกะปานไม้แดกตา เมื่อถูกตีเจ็บแล้วจะปลอบประโลมปานใดก็ไม่หายเจ็บ

อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี อย่าได้ลืมญาติพี่น้องของตัวเอง ไปยกย่องว่าผู้อื่นดีกว่า

ชื่อว่าโลกีย์กว้างเมืองคนมันบ่เที่ยง มันหากเงี่ยงซ่อยง่อยคือค่อยตลิ่งของลางเทื่อแนวเด็กน้อยสอนคนหัวด่อน ลางเทื่อลุก

 

ไพร่บ้านสอนท้าวพ่อพญาก็มีโลกนี้ไม่เที่ยงหนอ วันนี้ลูกหลานอาจสอนพ่อแม่ พ่อเมืองยังต้องเชื่อชาวบ้าน

 

เชื้อชาติแฮ้ง เหม็นสาบกันเอง ปูสอนปูให้ย่างตรง ห่อนฤสิทำได้

หญิงฮูปฮ้าย ครองวัตรพางาม ชายฮูบทราม วิชาพาฮุ่ง

ความตายนี้แขวนคอทุกบาดย่าง ไผก็แขวนอ้อนต้อน เสมอด้ามดังเดียว

ไปหาพระให้เอาของไปถวาย ไปหานายให้เอาของไปต้อน

เดินทางบ่อสุดเส้น อย่าถอยหลังให้เขาเหยียบ ตายขอให้ตายหน้าพุ้นเขาสิเอิ้นว่าหาญ

คนผู้มีความฮู้ ซูซีเฮ็ดบ่แหม่น ความฮู้มีท่อแผ่นฟ้า เป็นบ้าท่อแผ่นดิน

ให้เจ้าคอยเพียรสร้าง เสทอแตนแปงซ่อ ให้สร้างก่อสืบไว้ เสมอเผิ้งสืบฮัง

การงานนี้ อุปสรรคแสนหมู่ เกิดเป็นคนต้องสู้ อย่าถอยร่นหลีกหนี

บุญ บุญนี้บ่แหม่นของแบ่งได้ ปันแจกกันแหล่ว บ่อห่อนแยกออกได้ คือไม้ผ่ากลาง คือจั่งเฮากินข้าว เฮากินเฮาอิ่ม

 

บ่แหม่นไปอิ่มท้อง เขาพุ้นผู้บ่กิน

 

ไผผู้เฮียนฮ่ำฮู้ วิชาปราชญ์ทางใด ก็ให้มีใจจด เผิ่งวิชาที่ตนฮู้

ไผผู้มัวเมาคร้าน การงานตั้งต่อ บ่มีวันสิพบพ้อ เงินล้านค่าแพง

คันว่าได้ดีแล้ว อย่าลืมคุณพ่อแม่ เผิ่นหากเลี้ยงแต่น้อย ถนอมให้ใหญ่สูง

ขอให้อดสาสู้ เพียรไปให้ถืกป่อง คุณอาจารย์ยกใส่เกล้า คนิงไว้อย่าสิลืม

ให้เจ้าเอาความฮู้ หากินในทางชอบ ความฮู้มีอยู่แล้ว กินได้ชั่วชีวัง

 

ตกกะเทินว่าได้เฮียนแล้ว สิเฮียนเหมิดสู่ซ่อง เฮียนให้เผิ่นได้ย่อง เหมิดถ้วนคู่สู่แนว

ตกกะเทินว่าได้สู้ บ่ถอยหลังให้เขาว่า นับแต่มื้อสิก้าวไปหน้า บ่ถอย

ฝนตกยังฮู้เอื้อน นอนกลางคืนยังฮู้ตื่น ความทุกข์ยังฮู้เตื้อง มีขึ้นเมื่อลุน

คำสอนพ่อแม่นี้หนักเกิ่งธรณี ผู้ใดยำเยงนบหากสิดีเมือหน้า

ยามยังน้อยให้หมั่นฮู้เฮียนคุณ บุญเฮามีสิยศสูงเพียงฟ้า

ได้ขึ้นเฮือแล้ว อย่าลืมแพป้องไม้ไผ่ ได้เป็นใหญ่แล้ว อย่าลืมข้าผู้พลอย

ชาติที่เงินคำแก้ว มันบ่แหม่นของไผ ผู้ใดมีใจเพียร หากสิหลงหลอนพ้อ

ไผผู้มัวเมาคร้าน การงานตั้งต่อ บ่มีวันสิพบพ้อ เงินล้านค่าแพง

ชื่อว่าแนวเด็กน้อย ตากอความคึดหม่อ ได้กอขอข้อหล่อ ความเว้าผัดอยู่ดาว

เด็กน้อยมีความฮู้สองสามความมันก็อ่ง ผู้ใหญ่ฮู้ตั้งล้านก็อำไว้บ่ค่อยไข

ชื่อว่าแนวความเว้าของคนมันเกินง่าย   ได้เทิงหงายและคว่ำความเว้าบ่อยู่ความเขาฮักเขาก็ย่อง เขาซังเขาก็ว่า

 

คือดั่งบักเค้าเม้า หมาเฒ่าเห่าแต่เขาคันเฮาทำดีแล้ว เขาซังก็ตามซ่าง   คันเฮาเฮ็ดแม่นแล้ว หยันหย่อก็ซ่างเขา

เขาสิพากันท้วง ทั้งเมืองก็บ่เงี่ยง   เขาสิติทั้งค่าย ขายหน้าก็บ่อายเกี้ยงแต่นอกทางในเป็นหมากเดื่อ หวานนอก

เนื้อในส้มดั่งหมากนาว

 

 

ผญ๋าเกี้ยวพาราสีทั่วไป(เอาไว้จีบผู้สาวเด้อ)

 

ฝันคืนนี้ฝันเป็นประหลาดต่าง ฝันว่าเสาเฮือนเนิ้งไปทางตะวันออกฝันว่าปอกมีดโต้ตกน้ำล่องหนี ฝันว่าธำมะรงเหลื้อมในมือ

 

กระเด็นแตกเกรงว่านาถเจ้าใจเลี้ยวจากเฮียม

ฝันคืนนี้เป็นฝันประหลาด ฝันว่าเสาเรือนเอียงไปทางทิศตะวันออก ฝันว่าปลอกมีดตกน้ำไหล ฝันว่าแหวนเพชรในมือหล่นแตก

เกรงว่าจะเป็นลางร้ายหรือน้องจะจากไป

 

ฝันคืนนี้ฝันเป็นประหลาดต่าง ฝันว่าช้างเผือกผู้พระอวนเจ้าขึ้นขี่คอเฮียมก็ผันผยองขึ้นเทิงหัวช้างใหญ่ เฮียมกะหนีบ่ได้ ไกลเจ้าคืบวา

 

ฝันคืนนี้ช่างประหลาด ฝันว่ามีช้างเผือกของหนุ่มบ้านอื่นมารับเอาน้องหนีไปไกลลับตา

 

เว้าชู้ต่างบ้านปานฝากไข่ไว้นำกา ฝากปลาไว้นำแมว ฝากแหลวไว้นำไก่ น้อย ฝากก้อยไว้นำหมาขี้เฮื้อน มันสิม้ามเมื่อใด

 

มีคนรักต่างบ้านก็เหมือนฝากไข่ไว้กับกา ฝากปลาไว้กับแมว ฝากเหยี่ยวไว้กับไก่ฝากลาบก้อยไว้กับหมา ไม่รู้มันจะงาบเมื่อไร?

 

ว่าแม่นเสือกินรื้อสังบ่เห็นฮอยลาก ว่าแม่นนาคกินรื้อสังบ่เห็นฮอยแก่ หรือแม่นเงือกปากแหล้ หรือแม่นแข้ปากกว้างเอาเจ้าเข้าเวิ่นวัง

 

ถ้าว่าเสือกินทำไมไม่เห็นรอยลาก ถ้าว่านาคกินทำไมไม่เห็นรอยลาก หรืออาจเป็นเงือกหรือจรเข้เอาน้องไปซ่อนไว้หนใดหนอ

 

สิบปีกะสิถ้าซาวพรรษากะสิอยู่  คันบ่ได้เป็นคู่เห็นแต่อุแอ่งน้ำกะปานได้นั่งเทียม

 

สิบปี ยี่สิบปีก็จะรอน้องอยู่ ถึงไม่ได้เคียงคู่น้องมองเห็นแค่ตุ่มใส่น้ำก็เหมือนได้นั่งเคียง

 

อย่าให้เสียแฮงอ้ายเดินทางหิวหอด คือดั่งม้าอยากน้ำเดือนห้าหอดหิว คันบ่กูร์ณาอ้าย เห็นสิตายม้อยระแหม่ง เห็นสิตาย

 

หอดแห้งหิวน้ำหอดแฮงอย่าให้เสียแรงที่พี่ต้องดั้นด้นมาหา ได้โปรดกรุณารับไมตรีพี่ไว้อย่าแล้งน้ำใจนักเลย

 

พี่สิลาจากน้องกลับต่าวเคหัง ปาสิลาวังเวินเสิ่นไปคือฮุ้ง ทุงสิไลลาผ้า สาหนองสิลาบวก ฮวกสิลาแม่น้ำ นางน้องค่อยอยู่ดี แด่เนอ

 

พี่ต้องลาจากน้องไปแล้ว เหมือนปลาที่ลาจากน้ำ นกลาจากหนอง ขอให้น้องอยู่สุขสบายดีนะ

 

พี่นี้บ่มีต้นกล้วยจึงได้เหนี่ยวหาตอง บ่มีสองจิ่งได้มาหาน้อง

พี่นี้ปลอดอ้อยซ้อย เสมออ้อยกลางกอ กาบกะบ่ห่อ หน่อน้อยกะบ่อซอน ชู้บ่ช้อนเมียอ้ายบ่มี

 

พี่นี้ยังเป็นโสด ไร้คู่ใจเหมือนต้นอ้อยกลางกอ จึงได้มุ่งหมายมารักน้อง

 

พี่หากใจประสงค์ปล้ำยูงยางไม้ใหญ่ คันแม่นพร้าบ่บ่าน ขวานบ่เป้ ไม้บ่ล้ม อวนอ้ายบ่เซา

 

พี่นี้ตั้งใจเด็ดเดี่ยวแล้ว (รักน้อง) ว่าจะตัดต้นไม้ใหญ่ แม้นพร้าและขวานไม่บิ่น ไม้ไม่ล้ม (น้องไม่ตกลง) พี่นี้ไม่เลิกลา

 

นกเขาตู้พรากคู่กะยังขัน กาเวาวอนพรากฮังกะยังฮ้อง น้องพรากอ้ายคำเดียวบ่เอิ้นสั่ง คันบ่เอิ้นสั่งใกล้ขอให้เอิ้นสั่งไกล

 

นกพรากคู่พรากรังยังร้องเพรียกหา แต่น้องจากพี่ไปไม่มีแม้คำร่ำรา

 

ขันตีตั้งสัจจังหมั้นเที่ยง บ่ได้คึดเบี่ยงเลี้ยวลวงล้อหลอกใผ ปานใดเดสิได้จูงแขนเข้าพาขวัญป้อนไข่หน่วย มือขวาป้อนไข่อ้าย

 

มือซ้ายป้อนไข่นางพี่นี่ตั้งใจมั่นรักน้องไม่เคยคิดเปลี่ยนใจ แล้วเมื่อไหร่หนอจะได้จูงมือน้องเข้าสู่หอ (พิธีบายศรีสู่ขวัญงาน

แต่งงานชาวอีสาน จะมีการป้อนไข่ต้มแก่คู่บ่าวสาว ดูรายละเอียดใน ไปเอาบุญบ้านเฮา ประเพณีสูตรขวน)

 

คันบ่แน่บ่ยิง บ่จริงอย่าเว้า บ่เอาบ่ว่า รับฟ้าผ่าห่าตำกะได้ ใจนั้นเที่ยงชัน

 

ไม่แม่นไม่ยิง ไม่จริงไม่พูด ไม่อยากได้ไม่ขอ ให้ฟ้าผ่าก็ได้ใจพี่นี้มั่นคง (รักน้องจริง ๆ)

 

ข้าขออะธิษฐานตั้งขอฝากพระไมติ์มิตร พันธนังติดหมื่นปีบ่ไลน้อง พี่นี้จงจิตข้องหมายตายเกิดฮ่วม ขออย่าคละคลาดแคล้วคำ

 

หมั้นขอดสาร น้องเอยขออธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จะรักน้องจนตายแม้เกิดชาติหน้าหรือชาติไหน ใจพี่ยังมั่นคง นะน้องเอย

 

ใจหนึ่งว่าอยากงมปลาปิ้งกลางทะเลให้เขาซ่า สาเด ใจหนึ่งว่าอยากถมแม่น้ำให้เป็นพื้นแผ่นเดียว

 

อยากจับปลากลางทะเลมาปิ้งให้คนลือ อยากถมผืนแม่น้ำให้เป็นแผ่นดินเดียวกัน (เพื่อน้องคนเดียว)

 

ใจหนึ่งว่าอยากหย้อแม่น้ำให้เป็นแผ่นดินเดียว คราวสองคืนสามคืนอยากหย้อเป็นคราวมื้อ

 

ใจอยากจะบีบแม่น้ำให้เป็นแผ่นดินเดียวกัน อยากย่อวันเวลาลงมาเพื่อให้ได้ใกล้ชิดน้อง (คิดถึงมาก ไม่อยากห่างไกล)

 

ใจประสงค์แล้วเมืองแกวกะดั้นฮอด ใจประสงค์ยอดแก้วในถ้ำกะก่นหา

 

เมื่อมีใจรักน้องแม้จะอยู่แดนไกลเพียงใด ก็จะติดตามถามหา

 

 

ผญ๋าเกี้ยวพาราสีโต้ตอบหนุ่มสาว

(คำที่ปรากฏออกสำเนียงตามภาษาอีสานครับ ไม่ได้พิมพ์ผิด)

 

(ชาย)…. สุขซำบายหมั้นเสมอมันเครือเก่าบ่นอ เทิงพ่อแม่พี่น้องซำบายถ้วนอยู่สู่คนบ่เด

(หญิง) …. น้องนี้ สุขซำบายหมั้น เสมอมันเครือเก่าอยู่ดอกอ้าย เทิงพ่อแม่พี่น้องซำบาย พร้อมสู่คน

 

(ชาย)…. อ้ายนี่อยากถามข่าวน้ำ ถามข่าวเถิงปลา ถามข่าวนา อยากถามข่าวเถิงเข้า อ้ายอยากถามข่าวน้องว่ามีผัวแล้วหรือบ่ หรือว่ามีแต่ซู้ ผัวสิซ้อนหากบ่มี

(หญิง)…. โอนอ อ้ายเอย น้องนี้ปอดอ้อยซ้อยเสมอดั่งตองตัด พัดแต่เป็นหญิงมาบ่มี ซายสิมาเกี้ยว ผัดแต่สอนลอนขึ้นบ่มี

เครือสิเกี้ยวพุ่ม พผัดแต่เป็นตุ่มไม้เครือสิเกี้ยวกะบ่มี

 

(ชาย)…. น้องอย่ามาติแถลงเว้า เอาเลามาปลูก บ่แหม่นเซื้อซาติอ้อยกินได้กะบ่หวาน

(หญิง)…. คันบ่จริงน้องบ่เว้า คันบ่เอาน้องบ่หว่า คันบ่แม่นท่า น้องบ่ไล่ควายลง ตีลงแล้ว ถอยคืนมันสิยาก มันสิลำบากน้องเทียวหยุ่งอยู่บ่เซา

 

(ชาย)…. อ้ายนี่เป็นดังอาซาไนม้า เดินทางหิวหอด มาพ้อน้ำส้างแล้วในถ้ำกะส่องดาย กลายไปแล้ว ผัดคืนมาก้มส่อง อยากกินกะกินบ่ได้

เลียลิ้นอยู่เปล่าดาย

(หญิง)…. น้องนี้เป็นดังเฮือคาแก้ง เสาประดงคุงหาด หาผู้คึดซ่อยแก้ ให้หายฮ้อนกะบ่ม

 

 

ผญ๋าปริศนา

 

กุญชรช้างพลายสารเกิดอยู่ป่า ยังมาอยู่บ้านเมืองกว้างกล่อมขุน

กุญชรช้างอัศดรคุณมาก ก้หากหายากแท้ทั้งค่ายบ่มี ส่วนว่ายุงยองฮิ้นฝูงไฮเฮือดไต่ บ่ห่อนขี้ไฮ้หาได้คู่เฮือน

กุญชรโรช้างแนวสูงศักดิ์ใหญ่ ตายย้อนมดแดงน้อย ๆ แนวนั้นก็หากมี

คันได้ขี่ช้างแล้วอย่าดังเปิดดังเหิน อย่าได้เสิ่น ๆ หัวแหย่งสิพานพาฮ้าย

คันได้ขี่ช้างให้หาแหย่งยองหลัง คันบ่ยองแหย่งลงสิบ่สมทรงช้าง มันสิเสียศรีเศร้าเสียทรงช้างใหญ่ ให้ขัดสีอยู่สู่มื้องามแท้เลิศคุณ

คันบ่ออกจากบ้านบ่เห็นด่านแดนไกล คันบ่ไปหาเฮียนก็บ่มีความฮู้

คันคากน้อยยังได้ฮบพญาแถน ยังได้ครองนครขวางนั่งเมืองเป็นเจ้า

กากับนกเค้าบ่เข้าฮ่อมแกวกัน หนูกับแมวบ่อยู่นำกันได้

 

คือดังหมีกับไม้พันทนังค้อป่า จอนฟอนกับเห่าห้อมบ่มีมื้อถืกกัน

 

คันสิเอาะอ่อมจ้ำอย่าได้ใส่น้ำหลาย มันสิใสเจงเลงบ่เป็นตาจ้ำ

คันหากมีสองแล้วบ่กลัวไผอย่าฟ้าวหว่า บาดห่าเป็นฮ้างหม้ายสิมาโอ้ใส่เขา

คันได้นั่งบ้านเป็นเอกสูงศักดิ์ อย่าได้โวๆ เสียงลื่นคนทั้งค่าย

 

ชื่อว่าเป็นนายนี้ให้หวังดีดอมบ่าว คันหากบ่าวบ่พร้อมสิเสียหน้าบาดเดิน

 

 

ผญ๋าสอนหญิง

 

เป็นหญิงให้ใจอ่อนน้อม คำเว้าอ่อนหวาน

เทียมดั่งพธูเผิ้ง หวานเลิงบ่ฮู้หล้า

เป็นหญิงอย่าได้ปากกล่าวต้าน คำกล้ากว่าชาย

ให้ค่อยเอาใจตั้ง คำโบราณสอนสั่ง

ให้มีใจอ่อนน้อม ประสงค์ตั้งต่อผัว นั้นเนอ

ให้คึดกลัวความฮ้าย ใดดีให้คึดฮ่ำ

แม่นว่ามีโฉมฮ้าย ฉันใดอย่าประมาท

เป็นแต่ชาติก่อนพุ้น บุญสร้างแต่หลัง

 

.

 

อันว่าอิตถีเชื้อ ฝูงหญิงงามยิ่ง

เห็นว่าได้มิ่งต้น อย่าโงแง้นว่าโต นั้นเนอ

อย่าได้เอโกอ้าง บ่เอาไผเป็นที่เผิ่ง แพงเอย

ชาติที่นอนป่าฮ้าย แปลงห้างให้ใหญ่ดี

เห็นว่ามีทางซ้อน อย่าหวังคอยสิวางง่าย หลายเนอ

บาดน้ำเขินขาดแล้ง ตมสิแห้งไหง่ผง

ชาติที่แนวนามบ้ง แปนโตกาสิตอด เอาแหล่ว

ให้เจ้าเป็นดั่งม้อน ใยหุ้มห่อตัว

 

.

 

ชาติที่เป็นหญิงให้ มีชายเพทียมพ่าง

หญิงบ่มีคู่ซ้อนเสียเชื้อชาติหญิง ยิ่งแหล่ว

คันสิเอาผัว ให้ถามนามนักปราชญ์

ชาติที่ยาวลื่นด้าน งามแย้มก็อย่าเอาเจ้าเฮย

ชายใดเนาในห้อง เฮือนตนเป็นวาด

สัพพะการเวียกเว้า กระทำสร้างสู่วัน

ชายนั้นหญิงใดได้สบายใจหมดทุกสิ่ง จริงแหล่ว

พากันลุลาภได้ ของเข้ามั่งมูน

ยูถ่างทำบุญสร้าง ทานไปบ่ได้ขาด

ให้มีใจอ่อนน้อมประสงค์ตั้งต่อทาน นั้นเนอ

 

 

ผญ๋าภาษิตสะกิดใจ

 

ความลับบ่มีให้เถิงสาม ความงามบ่ให้เถิงสี่ ความมิดความมี่บ่ให้เถิงห้าเถิงหก

ความดีฝังไว้เก้าศอก ความชั่วชักออกมาเก้าวา

ใจหนักได้กินข้าว ใจเบาได้กินกลอยหัวใหญ่

เจ้านายดีบ่เห็นแก่เงินแสนไถ่ แต่เห็นแก่ไพร่แสนเมือง

เอาลูกใภ้มาเลี้ยงย่า ปานเอาห่ามาใส่เฮือน

 

เอาย่ามาอยู่นำลูกใภ้ ปานเอาไข้มาใส่เฮือน

เอาลูกเขยมาเลี้ยงพ่อเฒ่า ปานได้ข้าวเต็มเล้าเต็มเยีย

 

หนูกินม้อน จั่งเห็นคุณแมว ลูกแขวนแอว จั่งเห็นคุณพ่อแม่

กินแม่นปาก อยากแม่นท้อง เทียวขี้แม่นขา

แจงแวงน้ำ ทาวหาบ่เห็นต่อน ซดแต่น้ำ คาแข้วแสม่งตาย

ไฟไหม้ป่าจั่งเห็นหน้าหนู น้ำท่วมฮูจั่งเห็นจิหล่อ

บ่มีความฮู้อย่าเว้าการเมือง บ่นุ่งผ้าเหลืองอย่าเว้าการวัด

เป็นนายให้ฮักไพร่ เป็นใหญ่ให้ฮักลูกบ้าน ขี้คร้านให้ค่อยเพียรจา

เข่า (ข้าว) เต็มเล้านั่งเว้ากะคือ เงินเต็มถังเว้าหยังกะได้

ทุกข์บ่มีเสื้อผ้า ฝาเฮือนเพกะพออยู่ ทุกข์บ่มีข้าวอยู่ท้อง นอนลี้อยู่บ่เป็น

ทังหลายเพิ่นแพงซิ้นปูปลายามอึดอยาก ความปากความเว้าบ่ได้ซื้อแพงไว้เฮ็ดอิหยัง

 

คนทั้งหลายเขาหวงแต่เนื้อปูปลายามอดอยาก แต่คำพูดนั้นไม่ได้ซื้อจะหวงไว้ทำไม

 

มีแล้วอย่าหยิ่ง

 

เห็นว่ามีสุขแล้วผักตำนิลบ่อยากเบิ่ง

 

เห็นว่ามีสุขแล้วบ่เหลียวแลพวกเพื่อน

ในโลกนี้บ่ห่อนอยู่เดียวเป็น

คันว่ามีผืนผ้าบ่หาแพรพาดบ่า

คันได้กินต่อนซิ้นปลากั้งบ่อยากเหลียว

คันบ่สุขอยู่เรื่อยสิเหลียวหน้าเบิ่งไผ

อยู่แต่คนเดียวดายบ่ห่อนเป็นเมืองบ้าน

สินุ่งแต่ผ้าไปได้จั่งใด๋

 

ผู้เฒ่า

 

คันแม่นผู้เฒ่าบ่เข้าวัดฟังธรรม

 

เขาสินินทาท้วงติเตียนทั้งโลก

เขาสิว่าเฒ่าแก่แดดบ่เหลียวเบิ่งทางตม

เขาสิว่าเฒ่าแข้วว้ำบ่เหลียวเบิ่งทางธรรม

เขาสิกำดินพึกใส่โฮยนำหน้า

เขาสิสับโขกเว้าคนเฒ่าบ่ดี

เขาสิว่าเฒ่าแก่ลมบ่เหลียวเบิ่งทางหน้า

เขาสิบ่ยำแยงนบท่อใยยองน้อย

 

บาปบุญ

 

บุญบาปนี้เป็นคู่คือเงา

 

คันเฮาพาเล่นพามันเต้นแล่น

เฮานั่งยองย่อเงาก็นั่งลงนำ

คันเฮาโตนลงห้วยภูเขาหลายหลั่น

เงาก็ตามเลี้ยวเก๊าะเกี่ยวพันธนัง

อันนี้สันใดแท้ทั้งสองบุญบาป

เงานั้นไปตามเฮาสู่วันบ่มีเว้น

พามันแอะแอ่นฟ้อนเงานั้นแอ่นนำ

ยามเฮาเอาหลังนอนก็อ่อนลงนอนด้วย

ขึ้นต้นไม้ผาล้านด่านเขา

บ่ได้มียามเหินห่างไกลกันได้

มันก็ติดต่อก้นนำส้นผู้ทำ นั้นแหล่ว

 

 

ผญ๋าภาษิตหมวดคำตลก

 

สาวนมโต้นลงโพนอย่าสิแหล่น บาดเจ้าคาดลาดล้ม นมสิโต้นแต่หลัง

จู๋บู๋หน้านมตูมตั้งตุ่ม ลูกบ่ดูดผัวบ่งุ้มสิมีไว้เฮ็ดหยัง

ไม้ใหญ่หงำนา ขาใหญ่หงำหี

สาวงามแพ้หี งัวพีแพ้ป่า

ลูกสาวเดียวให้ไปซ้อนฮวก เต้นข้วมบวกหีฉีกคุงดาก

(อย่าถือว่า ผญาเหล่านี้ คือ คำหยาบ ขอให้ถือว่าเป็นวรรณกรรมท้องถิ่น)

 

ผญ๋าภาษิตหมวดคำเปรียบเปรยต่างๆ

 

เข่า (ข้าว) เต็มเล้านั่งเว้ากะคือ เงินเต็มถังเว้าหยังกะได้

มีเป็นคน จนเป็นหมา

ว่าโตกะคัก เพิ่นแห่งกะด้อ ว่าโตนั่งจ้อก้อ เขานั่นแห่งนั่งตอ

เฒ่าเสียดาย ตายเสียชื่อ

นาสองเหมือง เมืองสองเจ้า เย้าสองเขยคะลำ

เสือตายเพราะหนัง ช้างตายเพราะงา พระยาตายเพราะสมบัติ

เสือกะว่าเสือดี หมีกะว่าหมีหาญ ฟานกะว่าฟานกล้า ม้ากะว่าม้าแล่นหัน

เห็นดงเป็นบ้าน เห็นเมืองเป็นป่า เห็นท่าน้ำเป็นด้าวด่านเสือ

อย่าไปเก็บดอกหว้านบ้านเพิ่นมาซม ให้ค่อยงอยซานเก็บดอกกระเจียวแคมฮั้ว

นกอีเอี้ยงกินหมากโพธิ์ไทร แซวแซวเสียงบ่มีโตฮ้อง แซวแซวฮ้องโตเดียวเหมิดหมู่

 

ผญ๋าภาษิตหมวดทุกข์สุข

 

ทุกข์เพิ่นบ่ว่าดี มีจั่งว่าพี่น้อง ลุงป้าเอิ้นว่าหลาน

ทุกข์คอบปาก ยากคอบท้อง เคยแล้วอยู่บ่เป็น

ทุกข์บ่มีเสื้อผ้า ฝาเฮือนเพกะพออยู่ ทุกข์บ่มีข้าวอยู่ท้อง นอนลี้อยู่บ่เป็น

ทุกข์กายอยู่ได้ ทุกข์ใจอยู่ยาก

ทุกข์ให้เลี้ยงม้า กำพร้าให้เลี้ยงหมู

บ่ทุกข์บ่ยาก บ่อึดบ่อยาก

มีเงินเว้าได้ มีไม้เฮ็ดเฮือนงาม

มีเงินให้เพิ่นกู้ มีซู้ให้เพิ่นเล่น (นี่กะทุกข์)

สุขเพราะมีข้าวกิน สุขเพราะมีดินอยู่

 

สุขเพราะมีคู่นอนนำ สุขเพราะมีคำเต็มไถ่

สุขเพราะมีเฮือนใหญ่มุงแป้นกระดาน สุขเพราะหลานหลายนั่งเฝ้า

 

อยากทุกข์ให้เป็นนายคน อยากสาละวนให้เอาเมียน้อย

อยากจนให้ขี้ถี่ อยากมีให้ทาน

อยากทุกข์ให้เป็นนาย อยากซำบายให้เป็นแหล่ง

อยากทุกข์ให้ค้าควย (ควาย) อยากรวยให้ค้าโบกค้าเบี้ย

อยากมีหลายมันไฮ้ อยากได้หลายมันตาย

อยากมีให้ยืมเงินเพิ่นไปค้า อยากขึ้นฟ้าให้ฆ่าเจ้าเอาของ

 

ทุกข์ยากฮ้าย ขอขอดแลงงายก็ดี อย่าได้ลืมคำสัตย์ เที่ยงจริงคำมั่น

 

 

ผญ๋าการนับจอกเหล้า

 

การนับจอกเหล้าแบบที่ 1

 

จอกหนึ่งพอชิกริก (จอกแรกซู่ซ่า)

จอกสองพอแซกแรก (จอกสองเอามาอีก)

จอกสามพอแปลกความ (จอกสามเริ่มเสียงดัง)

จอกสี่หลงพี่หลงน้อง (จอกสี่ลืมพี่ลืมน้อง)

จอกห้าเห็นป้าว่าแม่นเมีย (จอกห้าเห็นป้านึกว่าเมีย)

จอกหกชกปากพ่อเถ้า (จอกหกชกปากพ่อตา)

จอกเจ็ดแกล้มเป็ดแกล้มไก่ (จอกเจ็ดหาเป็ดหาไก่มาแกล้ม)

จอกแปดฟ้อนตากแดดว่าแม่นฝนตกริน (จอกแปดรำกลางแดดนึกว่าฝน)

จอกเก้าเข้าอยู่เล้าคึดอยากขายเกวียนละบาทก็ขาย (จอกเก้าขายข้าวเกวียนละบาท)

จอกสิบหลิบพุ้นหลิบพี้ (จอกสิบเดินหน้าหนึ่งถอยหลังสาม)

จอกสิบเอ็ดตึงลึงตึง (จอกสิบเอ็ดยืนโงนเงนจนล้ม ครอกฟี้!)

การนับจอกเหล้าแบบที่ 2

 

จอกหนึ่งเอ็นคอพึงบ่ทันปาก (จอกที่หนึ่งรินไม่ทัน)

จอกสองเสียงกระชากผิดสำนวน (จอกสองเสียงดังลั่นบ้าน)

จอกสามชวนพ่อเถ้าเป็นสหาย (จอกสามกอดคอพ่อตาเป็นสหาย)

จอกสี่ชวนนายลงเป็นมิตร (จอกสี่ดึงแขนนายให้เป็นเพื่อน)

จอกห้าคิดอยากด่าเมียตน (จอกห้าด่าเมียขโมง)

จอกหกเห็นคนมาฮ้องใส่ (จอกหกแกว่งปากหาตีน)

จอกเจ็ดเหลียวเห็นไก่ว่าแม่นหมู (จอกเจ็ดเห็นหนูเป็นแมว)

จอกแปดใบหูแดงหน้าเคร่ง (จอกแปดหูแดงหน้าตึง)

จอกเก้าเปล่งวาจาผู้ใดมาบ่ย้าน (จอกเก้าเสียงดังไม่กลัวใคร)

จอกสิบอ่าน กอ ขอ กอ กา นอนกับหมาเกือขี้ฝุ่น จักว่าอุ่นบ่อุ่นตากแดดจนสาย พิษสุรามันหายเหื่อไคลไหลย้าว

(จอกสิบมีหมาเป็นเพื่อน อ๊วก!)

 

การนับจอกเหล้าแบบที่ 3

 

จอกหนึ่งพุทธวาจา (จอกหนึ่งเสียงหวาน)

จอกสองหมากลางตลาด (จอกสองหมากลางตลาด)

จอกสามผ้าขาดบ่ฮู้จักตัว (จอกสามผ้าขาด หลุด ไม่รู้ตัว)

จอกสี่เห็นเจ้าหัวว่าแม่นจัวน้อย (จอกสี่เห็นสมภารนึกว่าเณรน้อย)

จอกห้าเห็นเห็นขี้ข้อยว่าแม่นเมียโต (จอกห้าเห็นนางแจ๋วนึกว่าเมีย)

 

จอกหกสายพังพานเพิ่นบ่พานโตพาน (จอกหกนักเลงโต อยากหาเรื่อง)

 

 

ผญ๋าเกณฑ์อายุของคน

 

…………………..สิบปีอาบน้ำบ่หนาว

…………………..สามสิบปีนอนตื่นก่อนไก่

…………………..ห้าสิบปีไปนามาทอดหุ่ย

…………………..เจ็ดสิบปีตีลังฆังบ่ม่วน

…………………..เก้าสิบปีพี่น้องมาดูฮ้องไห้

…………………..ร้อยสิบปีเห็นเดือนหงายว่าแม่นไฟไหม้

ซาวปีเหล้นสาวบ่เปิด

สี่สิบปีไปไฮ่มาทอดขา

หกสิบปีเป่าขลุ่ยบ่ดัง

แปดสิบปีหนักหนวกด่วนมาหู

ร้อยปีบ่ไข้บ่ตาย

ร้อยยี่สิบปีไข้บ่ไข้กะตาย

 

 

ผญ๋าสามัคคีกันไว้

 

คนเฮานี้ ต้องเผิ่งอาศัยกัน

คือดังปลาอาศัยน้ำ น้ำกะเผิ่งวังปลา

ปลาอาศัยวังเวิน จึ่งล่องลอยนาน้ำ

ทามอาศัยห้วย งัวควยอาศัยแอก

ตาแฮกอาศัยไก่ต้ม จึงโดนตุ้มจากคอน

คือดังคอนอาศัยไม้ นกใส่อาศัยโกน

คนกะอาศัยคน เผิ่งกันโดยด้าม

คามอาศัยหม้อ หมอมออาศัยส่อง

 

ฆ้องอาศัยไม้ฆ้อน ตีต้องจึงค่อยดัง

 

สามัคคีกันไว้ คือข้าวเหนียวนึ่งใหม่

อย่าได้เพแตกม้าง คือน้ำถืกข้าวเหนียว

สามัคคีกันไว้ คือฝนแสนห่า

ตกลงมาจากฟ้า ไหลโฮมโห่งอยู่หนอง