นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 10/2559 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม 2559 โดยมี พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมว่า ที่ประชุมได้อนุมัติให้สำนักงาน ก.ค.ศ.นำโปรแกรมการตรวจสอบการคัดลอกผลงานวิชาการมาใช้ในการประเมินวิทยฐานะ และ
ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ที่ประชุมได้รับทราบข้อสะท้อนจากกรรมการพิจารณาผลงานข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งพบว่าบางรายมีการลอกเลียนผลงานทางวิชาการ โดยการคัดลอกวิทยานิพนธ์ หรือคัดลอกผลงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาด้วยกัน ซึ่งทำให้ไม่เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนางานวิชาการและวงวิชาชีพ
จึงอนุมัติให้สำนักงาน ก.ค.ศ.พิจารณานำเทคโนโลยีเข้ามาตรวจสอบเอกสารที่ใช้ในการเสนอขอรับการประเมินวิทยฐานะ ซึ่งคงไม่พัฒนาโปรแกรมขึ้นมาใหม่ แต่จะเป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เช่น โปรแกรมอักขราวิสุทธิ์ ซึ่งใช้ตรวจสอบการคัดลอกผลงานทางวิชาการที่เป็นสิ่งพิมพ์ออนไลน์ พร้อมชี้แจงแหล่งข้อมูลที่ปรากฏซ้ำและแสดงรายการลอกเลียนเป็นแถบสีและระดับเปอร์เซ็นต์การเทียบซ้ำ โดยสามารถตรวจสอบได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ปัจจุบันโปรแกรมดังกล่าวใช้ตรวจสอบในมหาวิทยาลัยหลายแห่ง โดยขอให้สำนักงาน ก.ค.ศ.ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำโปรแกรมมาใช้ประกอบการประเมินวิทยฐานะต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้อนุมัติย้ายและแต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเสนอ เพื่อประโยชน์ของทางราชการ จำนวน 2 ราย ได้แก่
1) นายวิชัย แสงศรี ผอ.สพป.อุบลราชธานี เขต 1 ไปดำรงตำแหน่ง ผอ.สพป.ปทุมธานี เขต 2
2) นายโกวิท เพลินจิตต์ ผอ.สพป.อุบลราชธานี เขต 5 ไปดำรงตำแหน่ง ผอ.สพป.อุบลราชธานี เขต 1
สำหรับประเด็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีหรือเลื่อนวิทยฐานะตามข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) และหลักเกณฑ์การประเมินเพื่อคงไว้ซึ่งวิทยฐานะ ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 มาตรา 55 ที่กำหนดให้มีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะสำหรับตำแหน่งที่มีใบอนุญาต ประกอบวิชาชีพเป็นระยะ ๆ นั้น
ทั้งนี้ ครูเกือบทั้งประเทศร้อยละ 80 มีวิทยฐานะชำนาญการ ชำนาญการพิเศษ เชี่ยวชาญ และเชี่ยวชาญพิเศษ ดังนั้นการได้มาซึ่งวิทยฐานะถือเป็นการเพิ่มพูนความรู้และเป็นความภาคภูมิใจ แต่การให้เงินวิทยฐานะเกี่ยวข้องกับงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งยอมรับว่าเป็นผู้นำเรื่องนี้มาดูเอง เพราะครูถูกคนปรามาสว่าได้รับเงินเดือนมาก มีสวัสดิการดี แต่เด็กไม่มีคุณภาพ ซึ่งเรื่องนี้ตนเองยอมไม่ได้ ดังนั้นครูต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยการประเมิน แต่วิธีการประเมินจะไม่ให้เป็นภาระกับครู ไม่ต้องมีกระดาษรายงาน แต่เป็นสิ่งที่ครูทำอยู่แล้ว และจะต้องสอดคล้องกับเกณฑ์ PA ซึ่งผู้รับการประเมินต้องยอมรับ
ดังนั้น ครูไม่ต้องตื่นตระหนก แต่ครูก็ต้องปรับตัว เพื่อให้มีคุณภาพอย่างแท้จริง
สำหรับผลการประชุม ก.ค.ศ.ในเรื่องอื่น ๆ
“ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี” และสื่อมวลชน
จะเผยแพร่เพิ่มเติมในวันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม 2559
ดรุวรรณ บุญมาก, บัลลังก์ โรหิตเสถียร : สรุป/รายงาน
27/10/2559
ข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง : เดลินิวส์