ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค (คปภ.) ครั้งที่ 2/2560 เมื่อวันอังคารที่ 11 เมษายน 2560 ณ ห้องประชุมโกวิท วรพิพัฒน์ อาคารรัชมังคลาภิเษก กระทรวงศึกษาธิการ
- “ปนัดดา” เผย ศธ.ฝากความหวังในการขับเคลื่อนงานการศึกษาภูมิภาคไว้ที่ กศจ. และจะจัดเตรียมแผนการขับเคลื่อนให้สมบูรณ์ก่อนเปิดเทอม
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการฝากความหวังในการร่วมขับเคลื่อนการดำเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาคไว้กับคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ส่วนการประชุมครั้งนี้ได้เชิญผู้แทนคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เข้าร่วมประชุมหารือเพื่อพิจารณากฎ ระเบียบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้เกิดความชัดเจนและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ความร่วมมือกันขับเคลื่อนการศึกษาในระดับภูมิภาคครั้งนี้ จึงเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ทุกฝ่ายมาทำงานร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการในการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์ ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ รวมทั้งจัดระบบการศึกษา และการประเมินคุณภาพให้เป็นไปตามแผนการศึกษาจังหวัดและบริบทของพื้นที่ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งจะทำให้สามารถขับเคลื่อนงานตามแผนได้อย่างเต็มที่ สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้ลูกหลานเยาวชนมีการศึกษา ตั้งใจเรียน เป็นคนดี มีคุณภาพชีวิต เพื่อให้เกิดความสบายใจต่อพ่อแม่ผู้ปกครอง รวมทั้งส่งผลถึงประเทศชาติที่จะเกิดความมั่นคงแข็งแรงสืบไปด้วย
โดยกระทรวงศึกษาธิการจะจัดเตรียมการขับเคลื่อนทุกอย่างให้แล้วเสร็จ พร้อมเริ่มดำเนินการในช่วงเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2560 เป็นต้นไป
- เห็นชอบการกำหนดองค์ประกอบ กศจ.ชุดใหม่ จำนวน 15 คน
ดังนั้น คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จึงได้มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 19/2560 ลงวันที่ 3 เมษายน 2560 เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ แต่เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างต่อเนื่องและทันตามระยะเวลาที่กำหนดไว้คือก่อนเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2560 ที่ประชุมจึงได้มีมติเห็นชอบให้ กศจ.ชุดปัจจุบัน ทำหน้าที่ไปก่อนจนกว่าจะมี กศจ.ชุดใหม่
สำหรับองค์ประกอบของ กศจ.ใหม่ ใน 76 จังหวัด มีจำนวนทั้งสิ้น 15 คน ได้แก่
1) ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือรองผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ได้รับมอบหมาย เป็นประธานกรรมการ
2) ศึกษาธิการภาค ในพื้นที่ที่รับผิดชอบ เป็นรองประธาน
3) กรรมการ 7 คน ประกอบด้วยผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.), สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.), สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.), สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.), สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.), สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) โดยมีศึกษาธิการจังหวัด เป็นกรรมการและเลขานุการ
4) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 6 คน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแต่งตั้งโดยความเห็นชอบของ คปภ. โดยอย่างน้อยต้องมีผู้แทนองค์กรภาคเอกชน ผู้แทนองค์กรวิชาชีพ และผู้แทนภาคประชาชน ด้านละหนึ่งคน ทั้งนี้ กศจ. จะต้องนำเสนอรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 6 คน ให้ คปภ.พิจารณาเสนอ รมว.ศึกษาธิการ ลงนามแต่งตั้งต่อไปภายในเดือนพฤษภาคม 2560
ทั้งนี้ องค์ประกอบของ กศจ.กรุงเทพมหานคร ได้มีการปรับองค์ประกอบโดยให้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธาน และรองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นรองประธาน
- แต่งตั้ง อกศจ.จำนวน 3 ชุด คาดจะเกลี่ยบุคลากรได้ภายใน มิ.ย.นี้
ที่ประชุมได้มีมติให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (อกศจ.) จำนวน 3 ชุด มีองค์ประกอบชุดละ 9 คน ดังนี้
1) คณะอนุกรรมการบริหารงานบุคคล เพื่อดำเนินงานในเรื่องการบรรจุ แต่งตั้ง วิทยฐานะ ตลอดจนดูแลเรื่องวินัย โดยคณะอนุกรรมการชุดนี้จะต้องเสนอให้ คปภ.แต่งตั้ง
2) คณะอนุกรรมการบริหารราชการเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อดำเนินงานเกี่ยวกับการบริหารแผนยุทธศาสตร์ แผนการศึกษาจังหวัด รวมทั้งงบประมาณ
3) คณะอนุกรรมการพัฒนาคุณภาพการศึกษา เพื่อดำเนินงานการพัฒนาต่าง ๆ ให้เกิดคุณภาพการศึกษา โดยทั้งสองคณะอนุกรรมการนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถแต่งตั้งได้ในฐานะประธาน กศจ.
ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถแต่งตั้งคณะกรรมการครบถ้วนทั้งหมด ตลอดจนดำเนินการเกลี่ยบุคลากรเข้าปฏิบัติงานในสำนักงานศึกษาธิการภาค/สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดได้ ภายในเดือนมิถุนายนนี้
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล กล่าวด้วยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2560 กระทรวงศึกษาธิการได้นำเสนอให้ที่ประชุม ครม. รับทราบเรื่องการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งได้การชื่นชมจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำด้วยว่า ไม่ปรารถนาความแตกแยกในทุกเรื่อง แต่จะขอเป็นกำลังใจให้แก่ข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมทั้งขอให้มุ่งมั่นปฏิบัติงาน ช่วยกันสร้างคน สร้างความเป็นปึกแผ่น เพราะเมื่อเยาวชนดี ประเทศชาติก็จะดีตามไปด้วย
ที่มา :http://www.moe.go.th/websm/2017/apr/190.html