กระเป๋าถือสตรีทำด้วยหนัง (Leather Handbag)
บทสรุปนักลงทุน
กระเป๋าถือสตรีทำด้วยหนังของไทยเป็นที่ต้องการของต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากฝีมือประณีตคุณภาพดี และมีการพัฒนารูปแบบตามความต้องการของตลาด แต่การส่งออกในช่วงที่ผ่านมามีข้อจำกัดด้านต้นทุนวัตถุดิบนำเข้ามีราคาสูงขึ้นมาก ตามค่าเงินบาทที่อ่อนลง และผู้ผลิตยังปรับตัวไม่ทัน ปริมาณการส่งออกกระเป๋าถือสตรีทำด้วยหนังในช่วงปี 2538-2541 ลดลงเฉลี่ยร้อยละ 3.6 ต่อปี อยู่ที่ 3,346,725 ใบ ในปี 2541 มูลค่าการส่งออกลดลงเฉลี่ยร้อยละ 3 ต่อไป เป็น 1,154.2 ล้านบาท ล่าสุดในช่วงครึ่งแรกของปี 2542 นั้น ปริมาณส่งออกกลับเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 2.9 อยู่ที่ 1,495,807 ใบ ขณะที่มูลค่าการส่งออกยังลดลงร้อยละ 33 อยู่ที่ 394.4 ล้านบาท เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจซบเซา และการแข่งขันจากประเทศคู่แข่ง ได้แก่ ไต้หวัน จีน อินโดนีเซีย และอินเดีย โดยตลาดหลัก คือ เยอรมนี มีสัดส่วนถึงร้อยละ 45.3 ของมูลค่าการส่งออกกระเป๋าถือสตรีทำด้วยหนังทั้งหมด รองลงมา ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ฝรั่งเศส และอังกฤษ
ทางด้านมูลค่าการนำเข้านั้นเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 22.5 ต่อปี เป็น 181.41 ล้านบาทในปี 2541 เนื่องจากผลของค่าเงินบาทที่อ่อนลง ขณะที่ปริมาณการนำเข้าในช่วงปี 2538-2541 ลดลงเฉลี่ยร้อยละ 19 ต่อปี เหลือเพียง 72,303 ใบ ในปี 2541 และในช่วงครึ่งแรกของปี 2542 นั้น การนำเข้ากระเป๋าถือสตรีทำด้วยหนัง โดยเฉพาะแบรนด์เนมดัง ๆ ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณการนำเข้าเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกับปีก่อนร้อยละ 27.1 อยู่ที่ 42,078 ใบ เนื่องจากค่าเงินบาทแข็งขึ้น ทำให้ราคานำเข้าลดลงร้อยละ 27.5 มูลค่านำเข้าจึงลดลงร้อยละ 7.9 เป็น 76.91 ล้านบาท ราวร้อยละ 60 นำเข้าจากฝรั่งเศส รองลงมา ได้แก่ อิตาลี สวิสเซอร์แลนด์ ฮ่องกง
และสเปน
เนื่องจากธุรกิจกระเป๋าถือสตรีทำด้วยหนังมีตลาดในประเทศเป็นตลาดหลักอยู่ที่ประมาณ 8,346,600 ใบ มูลค่าตลาด 10,224.6 ล้านบาท เมื่อรวมกับการนำเข้าและส่งออกแล้ว ปริมาณความต้องการรวมกระเป๋าถือสตรีทำด้วยหนังอยู่ที่ 11,765,628 ใบ มูลค่า 11,560.2 ล้านบาท ในปี 2541
แนวโน้มปี 2542-2543 คาดว่าความต้องการโดยรวมจะปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับ ทั้งการส่งออกและนำเข้า ตลอดจนการใช้ในประเทศ ตามภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้น ทำให้อำนาจซื้อเพิ่มขึ้น และค่าเงินบาทที่มีเสถียรภาพ จะทำให้ความเสี่ยงทางด้านต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบลดลง อย่างไรก็ตาม การแข่งขันที่รุนแรงทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการต้องพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ทันสมัยโดยเน้นรูปแบบแฟชั่น และควบคุมคุณภาพให้ได้มาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาดและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน
ในการลงทุนประกอบกิจการผลิตกระเป๋าถือสตรีทำด้วยหนังขนาดเล็ก ขนาดกำลังการผลิตประมาณ 150,000 ใบ/ปี จะใช้เงินลงทุนประมาณ 1.8 ล้านบาท จำแนกเป็นเงินลงทุนในสินทรัพย์ถาวร 1.3 ล้านบาท และเงินทุนหมุนเวียน 5000,000 บาท/เดือน โครงสร้างต้นทุนการผลิตเป็นค่าวัตถุดิบถึงร้อยละ 60 ของต้นทุนการผลิตทั้งหมด รองลงมา คือ ค่าแรงงาน ค่าโสหุ้ยการผลิต และค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร ร้อยละ 25 10 และ 5 ตามลำดับ
การตลาด
ความต้องการในปัจจุบันและอนาคต
กระเป๋าถือสตรีทำด้วยหนัง (Leather Handbag) เป็นกระเป๋าที่ทำจากหนังฟอก และหนังเทียมซึ่งการผลิตกระเป๋ามีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับเปลี่ยนการผลิตหรือเพิ่มประเภทผลิตภัณฑ์เครื่องหนังได้ง่าย เช่น กระเป๋าธนบัตร กระเป๋าเดินทาง เข็มขัด เป็นต้น
กระเป๋าถือสตรีทำด้วยหนังเป็นที่ต้องการทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ โดยตลาดในประเทศส่วนใหญ่เป็นตลาดระดับกลาง-ล่าง จากการประมาณความต้องการในประเทศโดยการใช้ข้อมูลด้านประชากรเฉพาะเพศหญิง (ไม่รวมผู้ทำงานในภาคเกษตรและกรรมกร) พบว่าความต้องการกระเป๋าถือสตรีทำด้วยหนังในประเทศในปี 2541 อยู่ที่ประมาณ 8,346,600 ใบ มูลค่าตลาด 10,224.6 ล้านบาท
ในช่วงปี 2538-2541 ปริมาณการส่งออกกระเป๋าถือสตรีทำด้วยหนังลดลงเฉลี่ยร้อยละ 3.6 ต่อปี จาก 3,736,361 ใบ ในปี 2538 ตอป จาก 3,736,361 ใบ ในป 2538 มาอยูที่ 3,346,725 ใบ ในป 2541 และมูลคาการสงออกลดลงเชนกันเฉลี่ยรอยละ 3 ตอป จาก 1,263.79 ลานบาทในป 2538 เปน 1,154.16 ลานบาทในป 2541 เนื่องจากตนทุนวัตถุดิบนําเขามีราคาสูงขึ้นมาก จากคาเงินบาทที่ออนลง และผูผลิตยังปรับตัวไมทัน โดยในป 2540 ปแรกของการเปลี่ยนระบบอัตราแลกเปลี่ยนนั้นราคาสงออกกระเปาถือสตรีทําดวยหนังปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปกอนถึงรอยละ 26 แตในป 2541 ทั้งปริมาณและมูลคาการสงออกเพิ่มขึ้นจากปกอนรอยละ 68.7 และ40.8 ตามลํ าดับ และในชวงครึ่งแรกของป 2542 นั้น ปริมาณการสงออกเพิ่มขึ้นจากชวงเดียวกันของปกอนรอยละ 2.9 อยูที่ 1,495,807 ใบ ขณะที่มูลคาสงออกลดลงรอยละ 33 อยูที่ 394.43 ลานบาท เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจซบเซา และการแขงขันจากประเทศคูแขง ไดแก ไตหวัน เกาหลีใต จีน อินโดนีเซีย และอินเดียโดยตลาดหลัก คือ เยอรมนี มีสัดสวนถึงรอยละ 45.3 ของมูลคาการสงออกกระเปาถือสตรีทําดวยหนังทั้งหมด รองลงมา ไดแก ญี่ปุน (10.6%) สหรัฐฯ (8.5%) ฝรั่งเศส (6.7%) และอังกฤษ (6.0%) ที่เหลืออีกรอยละ 22.9 สง
ออกไปยังประเทศอื่น
ดานการนําเขานั้น เปนที่นาสังเกตวา หลังเปลี่ยนแปลงระบบอัตราแลกเปลี่ยนตั้งแตกลางป 2540 ทําใหคาเงินบาทออนตัวลงมาก ตอเนื่องใหราคานําเขาปรับตัวเพิ่มขึ้นมากเฉลี่ยรอยละ 51.2 ตอป สงผลใหมูลคาการนำเขาเพิ่มขึ้นมากถึงรอยละ 22.5 ตอป จาก 98.75 ลานบาทในป 2538 เปน 181.41 ลานบาทในป 2541 ขณะที่ปริมาณการนําเขาในชวงป 2538-2541 ลดลงมากกวาปริมาณสงออกอยูที่เฉลี่ยรอยละ19 ตอป จาก 136,187 ใบ ในป 2538 ลดลงเหลือเพียง 72,303 ใบ ในป 2541 และในชวงครึ่งแรกของป 2542 นั้น การนําเขากระเปาถือสตรีทําดวยหนังโดยเฉพาะแบรนดเนมดังๆ ยังคงมีอยางตอเนื่อง โดยปริมาณการนําเขาเพิ่มขึ้นจากชวงเดียวกันของปกอนรอยละ 27.1 อยูที่ 42,078 ใบ เนื่องจากคาเงินบาทแข็งขึ้น ทําใหราคานําเขาลดลงเมื่อเทียบกับป
กอนรอยละ 27.5 ทําใหมูลคานําเขาลดลงรอยละ 7.9 อยูที่ 76.91 ลานบาท โดยสวนใหญจะนําเขาจากฝรั่งเศสถึงรอยละ 60.0 ของมูลคาการนําเขากระเปาถือสตรีทําดวยหนังทั้งหมด รองลงมา ไดแก อิตาลี (19.0%) สวิสเซอรแลนด (8.1%) ฮองกง (5.6%) และสเปน (3.6%) ที่เหลืออีกเล็กนอยเพียงรอยละ 3.7 นําเขาจากประเทศอื่น
เนื่องจากธุรกิจกระเปาถือสตรีทําดวยหนังมีตลาดในประเทศเปนตลาดหลัก ขณะที่การนําเขาเปนตลาดระดับบน ดังนั้นความตองการในประเทศเมื่อรวมกับการนําเขาและสงออกแลวปริมาณความตองการรวมกระเปาถือสตรีทําดวยหนังอยูที่ 11,765,628 ใบ มูลคา 11,560.2 ลานบาท ในป 2541
แนวโนมป 2542-2543 คาดวาความตองการโดยรวมจะปรับตัวดีขึ้นเปนลําดับทั้งการสงออกและนําเขา ตลอดจนการใชในประเทศ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจมีแนวโนมที่ดีขึ้น ทําใหอํานาจซื้อเพิ่มขึ้น และคาเงินบาทที่มีเสถียรภาพ จะทําใหความเสี่ยงทางดานตนทุนการนําเขาวัตถุดิบลดลง อยางไรก็ตามการแขงขันที่สูงโดยเฉพาะ
ดานราคาจากผูประกอบการที่ผลิตสินคาระดับลาง ซึ่งมีอยูเปนจํานวนมาก จะทําใหแนวโนมราคาขายในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นไมมากนัก สําหรับภาวะการสงออกนั้น ยังตองแขงขันกับคูแขงสําคัญที่ไดเปรียบดานคาแรงที่ถูกกวา เชน จีน ดังนั้นผูประกอบการจึงตองพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑใหทันสมัย โดยเนนรูปแบบแฟชั่น และควบคุมคุณภาพใหไดมาตรฐาน เปนที่ตองการของตลาด และเพิ่มศักยภาพในการแขงขัน รวมทั้งการพัฒนาตลาดสงออกภายใตแบรนดเนมของไทย เพื่อยกระดับสินคาไทยใหอยูในตลาดกลาง-สูง เพราะหากไทยยังเปนเพียงแหลงรับจางผลิต ในขณะที่ตนทุนคาแรงสูง ทําใหความสามารถในการแขงขันนอยกวาคูแขง
ผูผลิตในปจจุบัน (คูแขง)
โรงงานผลิตกระเปาถือสตรีทําดวยหนังมีจํานวน 183 โรง ตั้งอยูในกรุงเทพฯ 123 โรงและปริมณฑล 41 โรง คิดเปนสัดสวนรอยละ 67 และ 22 ของจํานวนโรงงานทั้งหมด เนื่องจากมีแรงงานมีฝมือและการขน
สงวัตถุดิบสะดวก โดยโรงงานขนาดกลาง-ใหญ จะผลิตเพื่อสงออกมากกวาจําหนายในประเทศ ซึ่งจะผลิตยี่หอ
ของตนเอง และมีบางสวนที่รับจางผลิตใหกับยี่หอที่มีชื่อเสียง ขณะที่โรงงานขนาดเล็ก มักจะผลิตเพื่อจําหนายในประเทศเปนหลัก และรับจางผลิตจากบริษัทอื่นอีกตอหนึ่ง
อนึ่ง การผลิตยี่หอของตนเองนั้นควรจดลิขสิทธิ์ทั้งในประเทศไทยและประเทศผูผลิตที่สําคัญที่มีศักยภาพในการผลิต จําหนาย รวมทั้งความสามารถในการลอกเลียนแบบ เชน อิตาลี ฝรั่งเศส และ จีน เพื่อปองกันการตั้งชื่อซํ้าและการลอกเลียนแบบ
รายชื่อผูประกอบการสําคัญ
ขนาดใหญ่ | เงินลงทุน (บาท) |
บริษัท สุวิโน จํากัด
บริษัท คอลเลคชั่น อินดัสเตรียล แอสโซซิเอท (กรุงเทพ) จํากัด |
734,800,030
327,800,000 |
ขนาดกลางและย่อม | |
บริษัท ลี แอนด แมน แฮนดแบ็ก(ประเทศไทย)จํากัด
บริษัท คามาตาริ (ประเทศไทย) จํากัด บริษัท เอ.ซี.เลเธอร โปรดักส จํากัด บริษัท โรมาอุตสาหกรรม จํากัด บริษัท ซีอาร์ซี ครีเอชั่น จำกัด |
168,500,000
104,660,000 93,600,000 71,700,000 70,000,000 |
ที่มา: กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรรม
ชองทางการจําหนาย
กระเปาถือสตรีทําดวยหนังทํามีระดับราคาแตกตางกันมากตามกลุมลูกคา ซึ่งจําแนกไดตามระดับรายได้และการศึกษาเปนหลัก เชน กระเปาราคาถูกจับกลุมลูกคารายไดนอยจะวางจําหนายทั่วประเทศ ตามรานคาทั่วไป ขณะที่สินคาที่มียี่หอและชื่อเสียงจะวางขายผานหางสรรพสินคาโดยตรง สําหรับสินคาที่สวนใหญสงออกตางประเทศเปนหลักนั้นจะมีบางสวนจําหนายผานทางรานจิวเวลรี รานคาในโรงแรม ซึ่งมีนักทองเที่ยวตางประเทศเปนลูกคาประจํา เนื่องจากราคาสูงและมักทําจากหนังสัตวอื่นที่มิใชหนังโค/กระบือ เชน จระเข ปลากระเบน
เปนตน
การผลิต
วัตถุดิบที่ใชและแหลงวัตถุดิบ
วัตถุดิบที่ใชประกอบดวย 2 ประเภทหลัก คือ หนังฟอก และ Accessories ที่ใชประกอบกระเปาสวนใหญเปนโลหะ ซึ่งหนังที่ใชนั้นมีทั้งนําเขาและซื้อจากผูผลิตในประเทศที่สวนใหญโรงงานฟอกหนังอยูในจังหวัดสมุทรปราการ อาทิ โรงงานฟอกหนังชัยวัฒนา ผูประกอบการที่ใชหนังนําเขาเปนสวนใหญนั้นมักจะผลิตเพื่อสงออกเปนหลัก ขณะที่ผูประกอบการที่ใชหนังในประเทศเปนสวนใหญจะผลิตเพื่อขายในประเทศ โดยหนังที่นําเขาโดยมากมักเปนหนังสัตวที่มีคุณภาพดี เชน หนังจระเข นําเขาจากอเมริกาใต หรือหนังสัตวแปลก ๆ เชน หนังปลากระเบน นําเขาจากประเทศในแถบเอเชีย สําหรับแหลงจําหนาย Accessories สํ าคัญ เชน บริษัท ว.พรสินมารเก็ตติ้ง จํากัด บริษัท สหอุปกรณเครื่องหนังไทย จํากัด และรานขุมทรัพย เปนตน
โครงสรางตนทุนการผลิต
ประเภท | สัดสวน (%) |
1. วัตถุดิบ *
– วัตถุดิบในประเทศ – วัตถุดิบนําเขา 2. คาแรงงาน 3. ค่าเสื่อมราคาและอื่น ๆ |
60
10 90 15 25 |
รวม | 100 |
หมายเหตุ: * เปนการผลิตเพื่อสงออกเปนสวนใหญ กรณีผลิตเพื่อจําหนายในประเทศเปนสวนใหญนั้นสัดสวนวัตถุดิบในประเทศ : วัตถุดิบนํ าเขา = 90:10
กรรมวิธีการผลิต
- ออกแบบ
- คัดเลือก ตรวจสอบคุณภาพหนัง ใหตรงความตองการ
- ตัดหนังตามแบบที่ตองการ
- นําหนังเขาเครื่องเจียรหนัง เพื่อทํ าขอบหนังใหบาง งายตอการเย็บ
- พิมพหนังตามรูปแบบที่ตองการ โดยใชเครื่องปมหนัง
- ประกอบชิ้นสวน และเย็บเขาดวยกัน ซึ่งจะมีการประกอบและเย็บสลับกันไป จนไดเปน
กระเปา
- ตกแตงดวย Accessories
- บรรจุหีบหอ
เครื่องจักรที่ใชในกระบวนการผลิต
เครื่องจักรที่ใชในการผลิตกระเปาถือสตรีทําดวยหนัง ไดแก เครื่องเจียรหนัง ใชสําหรับทําขอบหนังใหบาง เพื่องายตอการเย็บ เครื่องปมหนัง ใชปม/ตัดหนังตามแบบที่ตองการ และจักรเย็บ มีทั้งจักรพื้น และจักรคอ
มา เครื่องจักรที่ใชสวนใหญนําเขาจากประเทศเยอรมนี โดยสามารถซื้อจักรเย็บจากบริษัทซิงเกอร ซึ่งผลิตในประเทศ
การลงทุนและการเงิน
ในการลงทุนอุตสาหกรรมกระเปาถือสตรีทําดวยหนังควรตั้งอยูในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เนื่องจากอยูใกลแหลงวัตถุดิบ ซึ่งโรงงานหนังฟอกสวนใหญตั้งอยูในจังหวัดสมุทรปราการ กรณีการลงทุนขนาดผลิต 150,000 ใบตอป โดยมีชั่วโมงการทํางาน 8 ชั่วโมงตอวัน ประกอบดวยเงินลงทุนและอุปกรณ ดังตอไปนี้
เงินลงทุน
- เงินทุนจดทะเบียนและเงินทุนเริ่มตน 1,300,000 บาท
– คาที่ดินและคาสิ่งปลูกสราง 800,000 บาท
– คาเครื่องจักร 250,000 บาท
– คายานพาหนะขนสงสินคา 250,000 บาท
- เงินทุนหมุนเวียน 500,000 บาท/เดือน
บุคลากร อุตสาหกรรมกระเปาถือสตรีทําดวยหนังใชบุคลากรประมาณ 25 คน ประกอบดวย
- พนักงานในโรงงาน ประกอบดวย
1.1 คนงาน จํานวน 20 คน
1.2 หัวหนาคนงาน จํานวน 1 คน
- พนักงานในสํ านักงานและพนักงานบริหาร จํานวน 4 คน
คาใชจายตอป
ตนทุนการขาย
- ตนทุนวัตถุดิบ 2,160,000 บาทตอป
– หนัง 2,000,000 บาทตอป
– Accessories 160,000 บาทตอป
- ตนทุนแรงงาน 900,000 บาทตอป
- ตนทุนคาเสื่อมราคาเครื่องจักร 180,000 บาทตอป
- ตนทุนคาโสหุยการผลิต 360,000 บาทตอป
4.1 คาสาธารณูปโภค
– คานํ้า 60,000 บาทตอป
– คาไฟ 132,000 บาทตอป
– คาโทรศัพท 19,200 บาทตอป
4.2 คาขนสง
– คานํ้ามัน 28,800 บาทตอป
4.3 คาดอกเบี้ยจาย 120,000 บาทตอป
กําไรเฉลี่ย ประมาณรอยละ 10 ของยอดขาย
หมายเหตุ: โรงงานมีการผลิตเครื่องหนัง 3 ประเภท คือ กระเปาถือสตรีทํ าดวยหนัง กระเปาธนบัตรและเข็มขัดโดยมีสัดสวนการผลิต 3: 3: 4 ตามลํ าดับ การใชกํ าลังการผลิตในป 2541 อยูในระดับตํ่ าเพียงรอยละ 20 ปริมาณการผลิตกระเปาถือสตรีทํ าดวยหนัง 9,000 ใบ กระเปาธนบัตร 9,000 ใบ และเข็มขัด 12,000 เสน โดยมีราคาขายสงเฉลี่ยตอหนวย ดังนี้ กระเปาถือสตรีทํ าดวยหนัง 250 บาท/ใบ กระเปาธนบัตร 110 บาท/ใบ และเข็มขัด 70 บาท/เสน ดังนั้นยอดขายรวมในป 2541 จึงอยูที่ประมาณ 4.1ลานบาท
แหลงขายเครื่องจักร (ในประเทศหรือตางประเทศ)
ตารางที่ 5: รายชื่อผูผลิตและตัวแทนจําหนาย
บริษัท | ที่อยู่ |
บริษัท ซันฮับเอ็นเตอรไพรส จํากัด
บริษัท ซิงเกอรประเทศไทย จํากัด (มหาชน) บริษัท ต.ไพโรจน จักรเย็บผา จํากัด
บริษัท โฮฮังมิง (ประเทศไทย) จํากัด
บริษัท เมนมอเตอร์สโปรดักส์ จำกัด
|
124/9-10 ถ.รัชดาภิเษก-ทาพระ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ
โทร 476-8469-72 321 ถ.สี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ โทร 236-0138 104/82 ถ.เอกชัย เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ โทร 415-1615, 415-7455 27/16 ซ.เพชรเกษม 69 ถ.เลียบคลองภาษีเจริญ เขตหนองแขม กรุงเทพฯ โทร 421-2576, 421-4246 11/327-328 ถ.เอกชัย เขต บางขุนเทียน กรุงเทพฯ โทร 895-1223-6 |
ที่มา: สอบถามจากผูประกอบการ
ขอมูลที่เกี่ยวกับกฎระเบียบและการขออนุญาตตาง ๆ
- การขออนุญาตนําเขา สงออก คา และครอบครอง
เนื่องจากการทํากิจการกระเปาถือสตรีทําดวยหนัง สวนใหญใชหนังสัตวเปนวัตถุดิบและบางชนิดเป็นสัตวที่ตองขออนุญาต อาทิ จระเข โดยที่ประเทศไทยเปนสมาชิกของไซเตส (อนุสัญญาวาดวยการคาระหวางประเทศซึ่งชนิดสัตวปาและพืชปาที่ใกลจะสูญพันธ (The Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora: CITES) ซึ่งกําหนดชนิดพันธุของสัตวปาและพืชปาที่ควบคุมในบัญชีหมายเลข 1 2 และ 3 (Appendix I II และ III) ของอนุสัญญา โดยมีหลักการดังนี้
ชนิดพันธุบัญชีหมายเลข 1 เปนชนิดที่หามคาโดยเด็ดขาด เนื่องจากใกลจะสูญพันธุ ยกเวนเพื่อการศึกษา วิจัยหรือเพาะพันธุ ซึ่งตองไดรับความยินยอมจากประเทศที่จะนําเขากอนประเทศผูสงออกจึงจะออกใบอนุญาต
สงออกได เชน กระทิง จระเขนํ้าจืดและนํ้าเค็มของไทย
ชนิดพันธุบัญชีหมายเลข 2 เปนชนิดที่ยังอนุญาตใหคาได แตตองมีการควบคุมโดยประเทศที่จะสงออก
ตองออกหนังสืออนุญาตใหสงออกและรับรองการสงออกแตละครั้ง อาทิ งูเหลือม
ชนิดพันธุบัญชีหมายเลข 3 เปนชนิดที่ไดรับความคุมครองตามกฎหมาย ของประเทศใดประเทศหนึ่งแลวขอความรวมมือประเทศภาคีใหชวยดูแลการนําเขา คือตองมีหนังสือรับรองการสงออกจากประเทศถิ่นกําเนิด เชน ควาย (เนปาล) เปนตน
ประเทศไทยเคยถูกพิจารณาลงโทษจากกลุมประเทศภาคีดวยการหามทําการคาสัตวปาและผลิตภัณฑกับไทย (Trade Ban) ตั้งแตเม.ย. 2534 ถึง เม.ย. 2535 ทําใหตองสูญเสียรายไดเปนจํานวนมาก ดังนั้นธุรกรรมเกี่ยวกับสัตวปา รวมถึงซากสัตวปา จึงตองไดรับความควบคุมจากหนวยงานราชการ ซึ่งมีพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ที่เกี่ยวของ 3 พ.ร.บ.ดวยกัน คือ
- พระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490
- พระราชบัญญัติสงวนและคุมครองสัตวปา พ.ศ. 2535
- พระราชบัญญัติการสงออกไปนอกและนําเขามาในราชอาณาจักรซึ่งสินคา พ.ศ. 2522
หนวยงานราชการที่ดูแลดานนี้ คือ
- สํานักอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติ กรมปาไม กรณีเปนสัตวบก รวมทั้งจระเขพันธุตางประเทศสามารถยื่นขออนุญาตไดที่หนวยงานดังกลาว หรือสํ านักงานปาไมจังหวัดที่ดานตรวจสัตวปาตั้งอยูในเขตจังหวัดนั้น หรือสํ านักงานปาไมจังหวัดที่สัตวปาอยูในเขตจังหวัดนั้น
- กองอนุรักษทรัพยากรประมง กรมประมง กรณีเปนสัตวนํ้ า และจระเขพันธุไทย สามารถยื่นขออนุญาตไดที่หนวยงานดังกลาว หรือสํ านักงานประมงจังหวัดที่ดานตรวจสัตวนํ้ าตั้งอยูในเขตจังหวัดนั้นหรือสํ านักงานประมงจังหวัดที่สัตวนํ้ าอยูในเขตจังหวัดนั้น
การทํ าโรงงานผลิตกระเปาถือสตรีทําดวยหนังจะมีทั้งการนําเขา สงออก ครอบครอง และคาหนังสัตวรวมถึงผลิตภัณฑ ซึ่งตองขออนุญาตจากหนวยงานที่เกี่ยวของขางตน ดังนี้
- ใบอนุญาตใหมีไวในครอบครองซึ่งสัตวปาคุมครองที่ไดจากการเพาะพันธุ หรือซากของสัตวปา
คุมครองที่ไดจากการเพาะพันธุ คาธรรมเนียมฉบับละ 50 บาท
- ใบอนุญาตใหคาซากของสัตวปาคุมครองที่ไดจากการเพาะพันธุ หรือผลิตภัณฑที่ทําจากของสัตวปา
คุมครองที่ไดจากการเพาะพันธุ คาธรรมเนียมฉบับละ 500 บาท
- ใบอนุญาตใหนํ าเขาหรือสงออกซึ่งสัตวปาคุมครองที่ไดจากการเพาะพันธุ หรือซากของสัตวปา
คุมครองที่ไดจากการเพาะพันธุ คาธรรมเนียมฉบับละ 50 บาท
- ใบอนุญาตใหนําเขา สงออกซึ่งสัตวปาหรือซากของสัตวปา คาธรรมเนียมฉบับละ 200 บาท
สําหรับหลักฐานประกอบการขออนุญาต ประกอบดวย
- หลักฐานการไดมาซึ่งสัตว หรือซาก หรือผลิตภัณฑที่ทํ าจากซากของสัตวปาคุมครองที่ไดจากการเพาะพันธุ
- หลักฐานการเปนสัตวปา หรือซากของสัตวปาที่อนุญาตใหนําเขา สงออกไดตามหลักเกณฑของ CITES
- สําเนาใบสั่งสินคา (Order) หรือสําเนาใบกํากับสินคา (Invoice)
- สําเนาใบอนุญาตสงออก (Export Permit) จากประเทศผูสงออก เพื่อใชประกอบการขอใบอนุญาต
นําเขาของผูประกอบการไทย
- สํ าเนาใบอนุญาตนําเขา (Import Permit) จากประเทศผูนําเขา เพื่อใชประกอบการขอใบอนุญาต
สงออกของผูประกอบการไทย
- สําเนาใบรับรองถิ่นกําเนิด (Certificate of Origin)
- สําเนาใบรับรองสุขภาพสัตว (Health Certificate )
- สําเนาทะเบียนบานของกรรมการผูมีอํานาจลงนามผูกพันบริษัท
- หนังสือบริคณฑสนธิของบริษัท
- หนังสือรับรองของสํานักงานทะเบียนหุนสวนบริษัทแสดงรายการจดทะเบียนชื่อกรรมการ หรือ
หุนสวนผูมีอํานาจลงนามผูกพันบริษัท
- ดานภาษี
– การนําเขากระเปาถือสตรีทําดวยหนังตองเสียภาษีนําเขารอยละ 40 ของมูลคานําเขา เริ่มตั้งแต
1 ม.ค. 2542 กอนหนานี้เสียภาษีรอยละ 100
– วัตถุดิบประเภทหนังดิบไมตองเสียภาษีนํ าเขา
– วัตถุดิบประเภทหนังฟอกตองเสียภาษีนําเขาในอัตรารอยละ 5 ของมูลคานําเขา หรือ1.40บาท/กก. ยกเวนหนังฟอกที่ผานการฟอกขั้นตนโดยใชอะลัม (ทอวเด็ด) เสียภาษีนําเขาในอัตรารอยละ 10 ของมูลคานําเขา หรือ 3.30 บาท/กก. อัตราแบบใดคํานวณเปนเงินอากรไดสูงกวาจะตองเสียอัตราอากรแบบนั้น
– นอกจากนี้ยังตองเสียภาษีมูลคาเพิ่มอัตรารอยละ 7 (ใชตั้งแต 1 เม.ย.42 – 31 มี.ค. 44) กอนหนา และหลังจากชวงเวลาขางตนใชอัตรารอยละ 10
แหลงขอมูลอื่นๆ เชน หนวยงานที่ใหการสนับสนุนดานเทคนิค
– สมาคมเครื่องหนังไทย
– กรมสงเสริมการสงออก สนับสนุนดานการสงออก เชน ชวยดานคาใชจายเปนบางสวนในการออกรานแสดงสินคาในตางประเทศ มีการฝกอบรมดานการทําเครื่องหนัง ตลอดจนใหบริการดานการออกแบบ
– กรมสงเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม